ตอนเด็กๆฉันไม่รู้ว่าใครเป็นยังไงกันบ้าง
แต่ฉันเชื่อว่าหลายๆอาจเคยถูกพ่อแม่ตีเหมือนฉันก็ได้ ฉันจำได้สนิทตอนนั้นฉันเรียนชั้น ป.5
ฉัน ติดเกมส์ งอมแงม
เวลาที่ไปโรงเรียนฉันก็ไม่อยากไป ฉันอยากเล่นเกมส์อยู่ที่บ้าน เวลาที่ฉันอยู่โรงเรียนฉันก็อยากกลับบ้าน เวลาเรียนฉันก็เหม่อลอยอยากกลับบ้าน อยากกลับมาเล่นเกมส์ เกมส์ที่ฉันเล่นในตอนนั้นเป็น เกมส์รถวิบาก ฉันชอบมาก
เวลาที่ฉันได้เล่นเกมส์ฉันไม่อยากกินข้าว ไม่อยากอาบน้ำ
และฉันก็ไม่ชอบให้ใครรบกวน
ฉันทำตัวก้าวร้าวทุกครั้งที่พ่อหรือแม่มาเรียกฉันไปกินข้าว
ฉันกระทืบเท้าแรงๆจนถูกแม่ตีทุกครั้ง
เพราะฉันติดเกมส์มาก
แต่การที่แม่ตีฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ฉันยังคงดื้อรั้นเหมือนเดิม ญาติๆฉันก็ไม่มีใครรักฉัน เพราะมองว่าฉันเป็นเด็กก้าวร้าว เด็กมีปัญหา
ญาติๆฉันต่อว่าแม่ฉันว่าตามใจฉัน
แต่ตอนนั้นฉันยังเด็กฉันไม่คิดอะไรเลย
พอโตมาอีกหน่อย เพื่อนๆจะเข้าเรียน
ม .1 แถวบ้านฉันซึ่งอยู่ชนบท
ลูกบ้านไหนได้เรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ก็จะภูมิใจมาก ฉันไปสอบเหมือนเพื่อน แม้แต่ในห้องสอบฉันก็ยังคงคิดถึงเกมส์รถวิบาก
ฉันไม่มีสมาธิสอบ ผลที่ตามมาคือฉันไม่ได้เข้าเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ฉันเสียใจมาก
แต่ก็ไม่ทำให้ฉันเลิกติดเกมส์ฉันยังคงเป็นเด็กติดเกมส์ แต่ฉันก็เรียนที่โรงเรียนประจำอำเภอ แน่นอน พอเข้าม 1 แล้ว การบ้านก็เริ่มเยอะ และอีกทั้งติดเกมส์ สอบทีไรฉันก็ตกบ้างผ่านบ้าง ฉันเรียนๆแบบถูๆไถๆมาตลอด จนกระทั่งจบ ม. 3 ที่บ้านฉัน พ่อกับแม่
ดุฉันทุกครั้งที่ฉันเข้าห้อง
เพราะเขารู้ว่า ฉันต้องปิดห้องนอนเล่นเกมแน่ๆ แต่ฉันเป็นเด็กดื้อฉันโกหก พ่อกับแม่ว่า
ฉันทำการบ้าน แต่ฉันไม่ได้ทำ ผลสอบออกมา ฉันสอบได้ที่สุดท้ายของห้อง เพื่อนๆล้อฉันว่า ฉันโง่ ทำให้ฉันอาย
และฉันก็ไม่อยากไปโรงเรียน
ตอนนี้ฉันเลิกเล่นเกมส์แล้วฉันกำลังหาที่เรียนต่อ
วันนี้ฉันรู้แล้วผลของการไม่ต้องใจเรียนตั้งแต่ต้นเป็นยังไง
ฉันอยากเตือนน้องๆว่า ตั้งใจเรียนเถอะ
เพราะเวลาที่จะสอบเข้ามหาลัย มันเป็นการเป็นจุดชี้อนาคตของเราเลยก็ว่าได้ สำหรับน้องๆที่ติดเกม พี่อยากแนะนำว่า น้องจะต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ดี ขยันทำการบ้าน ขยันส่งงาน ตั้งใจเรียน จบม.
6 มาจะได้มีโอกาสเข้าเรียนที่ดีๆ
ที่ๆอยากเรียน
No comments:
Post a Comment