Pages

Thursday, September 29, 2011

ตาบอดคลำหมา

ชาย ตาบอดคนหนึ่ง ขณะกำลังยืนอยู่ริมถนนพร้อมกับหมาของเขา เจ้าหมาคู่ใจ ก็ยกขาข้างหนึ่ง แล้วก็ฉี่รดขากางเกงของผู้เป็นนาย ชายตาบอดเจ้าของหมา ก็หยิบขนมออกมาจากกระเป๋าชิ้นหนึ่ง ส่งให้มัน มีชายคนหนึ่ง ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็กล่าวกับชายตาบอดว่า "ให้มันทำไม มันทำแบบนั้น แล้วคุณก็ยังให้รางวัลมัน ผมว่า มันไม่ถูกต้องนะ"
ชายตาบอด : "ผมไม่ได้ให้รางวัลมันหรอกนะ ผมเพียงแค่กำลังหาว่าปากมันอยู่ตรงไหน เพื่อว่าผมจะได้ซัดก้นมันซักป้าบนึง"

Wednesday, September 28, 2011

ชายสามคน

ชายสามคน ได้เสียชีวิตลง วิญญาณพวกเขาก็ล่องลอยไปสู่ประตูสวรรค์ พวกเขาก็ได้พบกับเซนต์ ปีเตอร์ซึ่งได้แจ้งให้ทราบว่ามีที่ว่างเพียงที่เดียวเท่านั้น เซนต์ ปีเตอร์ก็ได้ถามถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเสียชีวิต
ชายคนแรก:"วันนั้น ผมกลับมาบ้าน ก็เห็นภรรยาผม นอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ผมก็ตรวจดูรอบๆบ้านจนมาถึงระเบียง ผมก็เห็นนิ้วมือมือคนเกาะอยู่ ผมคว้าได้ฆ้อน ก็หวดลงไปทีหนึ่ง เขาร่วงลงไปบนพุ่มไม้ ผมก็ดันตู้เย็นแล้วก็ผลักลงไปทับหัวมัน ผมรู้สึกแย่มากที่ได้ฆ่าคนตาย ผมก็เลยฆ่าตัวตาย"
ชายคนที่สอง:"ผมกำลังทาสี อยู่บนตึกชั้นที่37 เกิดเหยียบพลาด พลัดตกลงมา ผมคว้าราวระเบียงได้ แล้วใครก็ไม่รู้ เอาฆ้อนมาทุบที่มือผมจนผมร่วงลงมา แล้วยังผลักตู้เย็นลงมาทับผมจนเละ"
ชายคนที่สาม:"ผมก็แค่แอบอยู่ในตู้เย็น ไม่รู้เรื่องอะไรเลย"

Tuesday, September 27, 2011

บุญมีแต่ตาไม่ถึง

ในหมู่บ้านเล็กๆเห่งหนึ่งมีบาทหลวงนับถือในพระผู้เป็นเจ้ามาก
วันหนึ่งน้ำท่วมใหญ่ทุกคนในหมู่บ้านต่างอพยพหนี แต่บาทหลวงยังสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า
เมื่อระดับน้ำสูง มีชายคนหนึ่งบอกให้บาทหลวงขึ้นมาบนเรือ บาทหลวงปฎิเสธ แล้วบอกว่า
"ท่านไปก่อนเถิด แล้วพระเป็นเจ้าจะมาช่วยเราเอง"
หลังจากนั้นมีชายอีก 2 คนมาช่วยบาทหลวง แต่บาทหลวงยังคงยืนกรานเช่นเดิมจนบาทหลวงจมน้ำตาย และไปหาพระเป็นเจ้าบนสวรรค์
บาทหลวงถามพระเป็นเจ้าว่า
"ทำไมพระองค์ไม่ช่วยกระผมครับ"
พระเป็นเจ้าตรัสตอบไปว่า " ข้าส่งคนไปช่วยเจ้าแล้ว แต่เจ้า...ปฏิเสธ "

Monday, September 26, 2011

จุดประทัด

ไอ้หนุ่มสองคนนั่งคุยกันอยู่ในบาร์
หนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "ชีวิตเซ็กซ์ของนายเป็นไงวะเพื่อน"
"แย่ว่ะ" อีกคนหนึ่งตอบ "ทุกทีที่มีอะไรกัน อยู่ๆเธอก็หมดอารมณ์ไปเฉยๆตอนเข้าด้ายเข้าเข็ม เซ็งเลยว่ะ"
"อ๋อ เข้าใจเลยว่ะ กันก็เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่มีวิธีแก้ว่ะ กันซ่อนประทัดไว้ใต้เตียง พอเธอเริ่มหมดอารมณ์ กันก็จะจุดประทัด มันทำให้เธอตกใจ และตื่นเต้นพอที่เราจะทำมันต่อได้ กันใช้วิธีนี้มาหลายปีแล้วว่ะ"
"อืมมม น่าสนใจว่ะ กันจะลองดู"
วันถัดมาสองหนุ่มกลับมาที่บาร์อีกที
"นายได้ลองประทัดรึยังวะ" หนุ่มคนแรกถามอีก
"ไม่ อยากพูดถึงมันเลยว่ะ" อีกหนุ่มเซ็งสุดขีด "กันลองมันเมื่อคืน ตอนที่เราอยู่ในท่า 69 จู่ๆเธอก็ทำท่าจะหมดอารมณ์อย่างเคย กันก็เลยรีบจุดประทัด"
"แล้วเป็นไงวะ"
"เธอตกใจงับไอ้น้องชายกัน เข้าไปเต็มแรง แถมฉี่ราดใส่หน้ากันอีก แล้วที่แย่ที่สุด มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งตะกายออกมาจากตู้เสื้อผ้าร้องขอชีวิตกับกันอีกว่ะ"

Saturday, September 24, 2011

ไม่เสียใจ


วันหนึ่งมีเด็กสองคนชายหญิง
ไปเล่นที่สวนสาธารณะด้วยกัน
เด็กชาย-เธอ เชื่อไหมฉันมีของที่เธอไม่มีแหละ
เด็กหญิง-ไม่เชื่อหรอก
เด็กชายเปิดเสื้อแล้วชี้ที่สะดือ
เด็กหญิงทำตามบอกว่ามีเด็กชายชี้ที่หัวนม
เด็กหญิงตอบว่ามี
จากนั้นเด็กชายก็ถอดกางเกงออกชี้ไปที่จู๋
เด็กหญิงทำตามเมื่อมองดูก็ร้องไห้
เพราะตัวเองไม่มีเด็กชายหัวเราะเยาะ
เด็กหญิงจึงวิ่งร้องไห้กลับบ้าน
จากนั้นหลายวันผ่านไปเด็กสองคนมาเจอกันอีก
เด็กชายจึงถามว่าเธอไม่เสียใจเหรอที่เธอไม่มีเหมือนชั้น
เด็กหญิง-ไม่ย่ะแม่ชั้นบอกว่า
ตราบใดที่ชั้นมีไอ้นี่(ชี้ไปที่...ของตัวเอง)
ฉันจะหาไอ้นั่นอีกกี่อันก็ได้

Friday, September 23, 2011

ขึ้นราคาแล้ว

ยายคนหนึ่งมีอาชีพขายขนม ไทย แต่ขายได้ไม่ดีนัก เพราะขนมไทยไม่เป็นที่นิยมมากเท่าใด แต่ทุกเช้า จะมีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง มาซื้อขนมกับแกทุกวัน โดยชายหนุ่มจะยื่นเงินให้ยายคนนั้น 20 บาท โดยที่ไม่ได้รับขนมไปเลย แต่ชายหนุ่มคนนั้น ก็ทำเช่นนี้มาตลอด ไม่มีขาด ยายก็ได้แต่พูดขอบใจทุกครั้ง


อยู่ มาวันหนึ่ง ชายหนุ่มก็ทำเช่นเดิม ยื่นเงินให้ยาย 20 บาท แล้วกำลังจะเดินจากไป แต่คราวนี้ ยายจับแขนชายหนุ่มไว้ แล้วเอ่ยปากว่า พ่อหนุ่ม ชายหนุ่มรีบตอบกลับว่า ยายครับ ยายไม่ต้องสงสัยหรือเอ่ยถามหรอกครับ ผมทำแบบนี้ทุกวัน เพราะอยากช่วยยายครับ ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน
ยายตอบกลับว่า เปล่า... คือ ยาย.. อยากจะบอกว่า ขนมของยายขึ้นราคาเป็น 25 บาทแล้ว...

Thursday, September 22, 2011

กุหลาบนักการเมือง.....

นักการเมืองใหญ่รายหนึ่งเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการป่วย อะไรซักอย่าง(ไม่แน่ใจ ว่าเบาหวานหรือโรคหัวใจหรือม่ายก็ทำตาสองชั้นเอ้า...) แต่ด้วยความที่เขาเป็นตัวแสบขนานแท้ ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่กับพยาบาลจนไม่มีใครเข้าหน้าติด จะมีก็แต่หัวหน้าพยาบาลคนเดียวที่กล้าแหยม เธอเดินเข้าไปหานักการเมืองหย่าย...
"ขอวัดอุณหภูมิหน่อยนะคะ" เธอว่า
นักการเมืองโวยวายอยู่สักพัก ก่อนจะอ้าปากให้อย่างเสียไม่ได้
"ขอโทษค่ะ" หัวหน้าพยาบาลพูดอย่างใจเย็น "ไม่ใช่วัดทางปากค่ะ"
คราวนี้นักการเมืองยิ่งฉุนหนัก เขาโวยวายสาปแช่งอยู่เกือบห้านาทีกว่าจะยอมโก้งโค้งให้เอาปรอทแหย่ก้น
"ทิ้งไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวชั้นไปเอาชาร์ท ห้ามขยับจนกว่าชั้นจะกลับมานะคะ" เธอว่า
เธอ เดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะเปิดประตูทิ้งไว้  ทุกคนที่เดินผ่านห้องนี้ต้องแอบหัวเราะกับภาพที่เห็น จนสิบนาทีผ่านไปนั่นแหละ หมอเจ้าของไข้ถึงได้เดินเข้ามาในห้อง
"เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย?" หมออุทาน
"แล้วมันหนักหัวอะไรหมอล่ะ" นักการเมืองโวยอย่างหยาบคาย "ไม่เคยเห็นคนวัดอุณหภูมิทางก้นมาก่อนเรอะไง"
"อ๋อ... เคยสิครับ" หมอกลั้นยิ้ม "แต่ไม่เคยเห็นใครใช้ดอกกุหลาบวัด!!!"

Wednesday, September 21, 2011

หาลำไพ่พิเศษ


ในหมู่บ้านทางภาคอีสานแห่งหนึ่ง มีเด็กชายที่ฉลาดและใฝ่รู้ ชื่อหนูจุ่น เป็นนักเรียนชั้นประถม ที่เรียนดี และเป็นลูกที่ดีของพ่อจวน ในวันแรกของการปิดภาคเรียนฤดูร้อน หนูจุ่นก็เดินหน้าระรื่นไปบอกกับพ่อจวนว่า
หนูจุ่น:   พ่อจ๋า ผมได้งานพิเศษทำในช่วงวันหยุดปิดเทอมแล้วหล่ะ (เจ้าจุ่นทำหน้าอมยิ้ม ที่แฝงไปด้วย ความภาคภูมิใจ)
พ่อจวนพยักหน้ายิ้มและถามว่า
พ่อจวน:   แล้วเอ็งจะไปทำงานพิเศษอะไร กับใครหรือว่ะ ไอ้จุ่น
หนูจุ่นหัวร่อกิ๊กๆแล้วตอบว่า
หนูจุ่น:   น้ากำนัลเขาจ้างหนูไปกวาดใบไม้แห้งที่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านของแกจ๊ะ ต้นละตั้ง 5 บาทแน่ะ ดีไหมจ๊ะพ่อ
พ่อ จวนโบกมือไหวๆ ไล่หนูจุ่นออกไปและยิ้มอย่างมีความสุข เจ้าจุ่นก็ออกวิ่งตั๊กๆหายไปสักพัก เวลาล่วงไป ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าหนูจุ่น ก็วิ่งตื๋อกลับมาบ้าน หน้าบานพร้อมชูเงินใบแดงๆ ใบละ100 บาทหร๋ามาด้วย
หนูจุ่น:    พ่อ..พ่อจ๋า หนูกลับมาแล้วจ้า
พ่อจวนมองดูหนูจุ่นอย่าง งงๆ และเห็นเงินใบแดงๆมาด้วย จึงตะโกนถามไปว่า
พ่อจวน:   โอ้โฮ..เอ็งได้เงินมายังไงหาไอ้จุ่น ถึงได้เงินมาตั้ง 100 บาท สงสัยเอ็งไม่ต้องกวาดใบไม้ตั้ง 20 ต้นหรือวะไอ้จุ่น
หนูจุ่นยิ่มจนปากจะฉีกด้วยความภูมิใจก่อนจะตอบไปว่า
หนูจุ่น:   ป่าวจ่ะพ่อ หนูไปกวาดใบไม้แห้งใต้ต้นไม้ที่ลานหน้าบ้านแค่ต้นเดียวเอง
พ่อจวนทำหน้าตาตื่นๆ
พ่อจวน:   อะไรกันวะ ท่านกำนัลเขาใจดีให้เงินเอ็งกวาดต้นไม้ต้นเดียวตั้ง 100 บาทเชียวหรือวะ
หนู จุ่น:   ป่าวจะพ่อ ตอนที่ผมกำลังกวาดใบไม้ไม่นาน หมาของน้ากำนัลก็วิ่งมากัด น้ากำนัลเลยให้เงินมา 100 บาทปลอบใจ ดีมั๊ยพ่อ ได้เงินมาแบบไม่ต้องเหนื่อยเลย ……พ่อจวนทำหน้า งงๆ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี….เฮ้อ

Tuesday, September 20, 2011

ฮาๆ ใครจะรู้

กาล ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งหลงใหลในรสชาติของถั่วอบเป็นอันมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้าง ยามเมื่อต้องปล่อยแก๊สออกมา แต่เขาก็ยังชอบที่จะกินถั่ว
แล้ววันหนึ่งเขาพบหญิงสาวสวยถูกใจมากนางหนึ่ง
หลังจากใกล้ชิดสนิทสนมกันพอควร เขาก็ตกหลุมรักหล่อน
และตกลงใจปลงใจที่จะแต่งงาน
ตามด้วยการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะเลิกกินถั่ว!! เพราะขืนยังกินอยู่ ต้องอายสาวเจ้าน่าดู๊...
หลัง จากงานแต่งงานผ่านไป 2-3 เดือนวันหนึ่งระหว่างทางขับรถบ้าน หลังเลิกงานรถเจ้ากรรมเกิดเสีย... เนื่องจากบ้านของเขาอยู่ชนบท จึงไม่มีรถประจำทางไปถึง หนทางเดียวที่จะกลับบ้านได้ คือ ต้องเดิน เขาจึงโทรศัพท์ไปหาภรรยา เพื่อบอกว่า เขาอาจจะถึงบ้านช้าสักหน่อย เพราะรถเสีย และต้องเดินเท้ากลับบ้าน


ระหว่าง ทางกลับบ้าน เขาเดินผ่านร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง แล้วกลิ่นถั่วอบก็โชยออกมายั่วใจเขา เขาจึงคิดเข้าข้างตัวเองว่า กว่าจะเดินกลับถึงบ้านก็ต้องใช้เวลา และพลังงานมากน่าดู น่าจะหาอะไรรองท้องสักหน่อย ว่าแล้วเขาจึงเดินเข้าไปสั่ง ถั่วอบ 3 ถุงใหญ่พิเศษ!
 เพื่อเดินกินระหว่างทางกลับบ้านเขาเดินไปกินไป อย่างเพลิดเพลินจนถั่วหมดโดยไม่รู้ตัว และเขาก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
ครั้นเมื่อกดกระดิ่งปุ๊บ ภรรยารักเดินออกมาเปิดประตู พร้อมกับพูดว่า

“สวัสดีค่ะ ที่รัก..
น้องมีสิ่งจะทำให้พี่ประหลาดใจอย่างที่สุดในอาหารมื้อเย็นวันนี้เลยละค่ะ”

ว่า แล้วเธอ ก็ควักผ้าปิดตามาปิดฉับลงที่ใบหน้าสามี และจูงเขามานั่งที่เก้าอี้ที่หัวโต๊ะอาหาร และให้เขาสัญญาว่าจะไม่ใช้แทคติค ใดๆ แอบมองอย่างเด็ดขาด ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวในท้องของเขา
โชคช่วยที่เผอิญมีเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น ภรรยาที่กำลังจะเอื้อมมือมาเปิดผ้าผูกตา จึงบอกว่า ขอเวลาไปรับโทรศัพท์ประเดี๋ยว แต่พี่ห้ามแอบดู ก่อนน้องจะกลับมานะ เธอย้ำ แล้วก็ไป...

ขณะที่ภรรยาไปรับโทรศัพท์ เขาก็ฉวยโอกาสนี้ ผายลม เสียงของมันไม่ดังนัก
แต่เหม็นราวไข่เน่าทีเดียว จนแม้แต่ตัวเขาเองยังต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไล่กลิ่น
หลังจากรู้สึกว่า ดีขึ้น ลมระลอกใหม่ก็เริ่มบุกอีก แน่นอน เขาเริ่มผายลมระลอกใหม่ เสียงมันดังราวเครื่องยนต์ดีเซลกำลังทำงาน
กลิ่นแย่ยิ่งกว่าเดิมอีก...เขาจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไปมาอย่างรวดเร็ว โดยหวังว่า จะทำให้กลิ่นมันจางลงไปบ้าง

แต่ไม่ทันไร ข้าศึกชุดใหม่ก็มาถึง คราว นี้แย่ยิ่งกว่า 2 ครั้งแรก หน้าต่างสั่นไหวเพราะแรงลม จานบนโต๊ะเขย่า และนาทีต่อมาดอกไม้บนโต๊ะก็เหี่ยวเฉา ก็เพราะสัญญาว่าจะไม่เปิดตา เขาจึงไปไหนไม่ได้ นอกจากต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะ รอจนกว่าภรรยาจะกลับมา
เขานั่งรออยู่ราว 10 นาที และเป็น 10 นาที ที่มีกิจกรรมแบบว่าตลอด ผายลม..
โบก ผ้าเช็ดหน้า.. ซ้ำไปซ้ำมา.. เมื่อเขาได้ยินเสียงภรรยาวางโทรศัพท์ เขาจึงรีบพับผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋า และยิ้มให้ภรรยาอย่างไร้เดียงสา ราวกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภรรยากล่าวขอโทษที่คุยโทรศัพท์นานไปหน่อย และถามว่า
เขาไม่ได้แอบดูแน่นะ
...

เมื่อเขายืนยัน เธอจึงปลดผ้าผูกตาให้เขา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันชวนตื่นเต้นว่า “Surprise”
เป็น ช่วงเวลาอันน่าสะพึงกลัว... ที่เขาพบว่า มีแขกนั่งอยู่รอบโต๊ะกินข้าว 12 คน เพื่อร่วมงาน Surprise party ในงานวันเกิดของเขานั่นเอง

Monday, September 19, 2011

บำเพ็ญพรหมจรรย์


ที่วัดของหลวงพ่อจิตตาวัน มีบรรดาผู้มาบำเพ็ญบุญมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบำเพ็ญพรหมจรร ย์ สามี
ภรรยาสามคู่มาสมัครบำเพ็ญพรหมจรรย์กับเขาด้วย คู่แรกอายุราว 40 ปีเป็นเจ้าของฟาร์ม คู่ที่สองอายุราว
30 ปี เป็นเจ้าของอู่แท็กซี่ ส่วนคู่ที่สามบุญพรหมและภรรยาอายุราว 20 ปีมีอาชีพรับจ้างทั้งสองคน หลวงพ่อ
บอกกับพวกเขาว่า การที่จะมาบำเพ็ญพรหมจรรย์ในวัดได้นั้น ทั้งคู่ต้องฝึกงดการมีกิจกรรมทางเพศให้ได้
อย่างน้อยสามสัปดาห์เสียก่อนหลวงพ่อจึงจะรับไว้บำเพ็ญบุญได้
สามสัปดาห์ผ่านไป สามีภรรยาคู่แรกมาหาหลวงพ่อ หลวงพ่อถามถึงเรื่องการงดกิจกรรมทางเพศ
สามี 40 : พวกผมทำได้โดยไม่ยากครับ วันๆผมจะเข้าไปทำงานในคอกวัวส่วนภรรยาผมชอบปลูกดอกไม้
เราแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลย
หลวงพ่อ : ดีมาก อาตมารับโยมทั้งสองได้ เอ้า ! แล้วโยมคู่นั้นล่ะเป็นอย่างไรบ้าง ?
สามี 30 :  มันยากมากเลยครับหลวงพ่อ แต่เมื่อพวกเรามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วก็ต้องพยายามจนถึง
ที่สุด พวกเราต้องแยกเตียงกันนอนและในที่สุด พวกเราก็ทำได้ครับ
หลวงพ่อ : ดีมาก อาตมารับโยมทั้งสองได้ แล้วนั่น ! โยมบุญพรหมเป็นไงบ้าง ?
บุญพรหม : โอ้ หลวงพ่อ มันยากที่สุดเลย อาทิตย์แรกก็พอจะได้เรื่อง แต่พอขึ้นอาทิตย์ที่สองมันก็ทำท่าจะดี
จนกระทั่งวันหนึ่ง ภรรยาผมทำกระเป๋าถือเธอหล่น พอเธอก้มลงไปเก็บเท่านั้นผมก็กลั้นไปไหวแล้วจึงได้จัด
การเธอตอนนั้นเลย นั่นเป็นครั้งแรกที่เผลอใจ
หลวงพ่อ : โอ๊ย ! หลวงพ่อให้พวกโยมมาอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก กลับไปเสียเถอะ
บุญพรหม : ครับ ผมไม่ว่าหลวงพ่อหรอก เพราะขนาดที่สายบัวคาเฟ่ยังไม่ยอมให้พวกเราเข้าร้านเขาอีกเลย

Saturday, September 17, 2011

เข้าผิดห้อง

นายหงอกมีโอกาสจะได้ไปเที่ยวทัศนาจรต่างประเทศ แต่ด้วยความที่รู้ภาษาอังกฤษงู ๆ ปลา ๆ จึงมาถามเพื่อนว่า

เรื่องอะไรฉันก็ไม่วิตกจะกินจะนอนอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น แต่เรื่องส้วมนี่ฉันกลัวจริง ๆ กลัวจะเข้าห้องผิด อายเขาตายห่ะ

เพื่อน ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษชนิด เสน็ก ๆ ฟิช ๆ ก็บอกว่า ห้องสุขาชายเขาจะเขียนว่า MAN ของผู้หญิงเขาจะเขียนว่า WOMAN นายหงอกก็บอกว่าเผื่อจำไม่ได้ล่ะ

นายแมวเพื่อนผู้หวังดีก็บอกว่า

ก็จำไว้ซีผู้ชายตัวหนังสือมันสั้นกว่า ห้องผู้หญิงมันยาวกว่า

นายหงอกก็จำไว้ให้ขึ้นใจ เมื่อกลับจากทัศนาจรแล้วก็มาต่อว่านายแมวว่า

ฉันก็เข้าห้องสุขาที่มันเขียนสั้น ๆ แล้วนี่หว่า พอออกมาผู้หญิงมองกันใหญ่เลย

แกเข้าห้องที่เขาเขียนว่ายังไง ใช่ภาษาอังกฤษหรือเปล่า

นายหงอกก็บอกว่า

ห้องหนึ่งมันเขียนยาวเฟื้อย ฉันก็เข้าห้องที่เขียนสั้นน่ะซี ไอ้เราก็สงสัยว่าทำไมมันไม่มีที่ฉี่

นายแมวสงสัย

จำได้ไหมห้องที่แกเข้ามันเขียนว่ายังไง

จำได้ซีมันสั้นนิดเดียว มีตัวแอล เอ ดี วาย

Friday, September 16, 2011

ซุปเปอร์จ๋อ


ตำรวจนายหนึ่งไปเจอรถ ซึ่งประสบอุบัติเหตุพังยับเยิน คนขับและคนที่นั่งมาด้วยตายเรียบ ขณะที่เขา กำลังตรวจดูซากรถ ก็มีเจ้าลิงน้อยตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากป่าละเมาะแล้วกระโดดเต้น"ฮิปห็อป"ไป รอบๆซากรถ ตำรวจมองไปที่เจ้าจ๋อแล้วกล่าว : "ถ้าเอ็งพูดได้ ก็คงจะดีซินะ"
เจ้าลิงน้อยเงยหน้าขึ้นมองตำรวจ แล้วผงกศรีษะขึ้นลง
ตำรวจ : "เอ็งเข้าใจที่ข้ากำลังพูดเรอะ?"
เจ้าลิงน้อยผงกศรีษะตอบรับอีกครั้งหนึ่ง

ตำรวจ : "อืม..เอ็งเห็นตอนที่เหตุมันเกิดใช่มั้ย?"
"เห็นสิ" เจ้าลิงน้อยแสดงท่าทางตอบรับ
ตำรวจ : "ไหนบอกซิว่ามันเกิดขึ้นยังไง?"
เจ้าลิงน้อยทำท่าทางว่ามีกระป๋องอยู่ในมือแล้วยกขึ้นแตะที่ปาก
ตำรวจ :"พวกเขาดื่มกันเรอะ?"
เจ้าลิงน้อย :"ใช่ๆ"
ตำรวจ : "แล้วไงอีก?"
เจ้าลิงน้อยทำท่าทางคีบนิ้วเข้าหากันแล้วเอามาแตะที่ปาก
ตำรวจ : "พวกเขาสูบกัญชากันเรอะ?"
เจ้าลิงน้อย :"ใช่ๆ"
ตำรวจ:"เดี๋ยวๆ..นี่เอ็งกำลังบอกข้าว่า พวกเจ้านายของเอ็งเนี่ย ได้ดื่มเบียร์แล้วก็สูบกัญชากันในรถ ก่อนที่รถจะคว่ำพังยับทั้งคัน"
เจ้าลิงน้อย :"ใช่ๆ"
ตำรวจ : "แล้วในระหว่างนั้น เอ็งทำอะไรวะ?"
เจ้าจ๋อตอบด้วยการทำท่าทางให้ดูว่าู : "ตอนนั้น ฉันก็ถือพวงมาลัยนะสิ" ( 5555 )

Monday, September 12, 2011

เห็นมั๊ย ๆ

ในช่วงการจัดงานเกษตรประจำปีของจังหวัดพัทลุง วันนั้นเป็นวันที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนำนายกกาชาด (ก้อแม่บ้านของผู้ว่าฯนั่นแหละ) ไปเยี่ยมชมงาน โดยมีทั่นเกษตรจังหวัดนำชมบู้ทต่าง ๆ
เมื่อทั่นผู้ว่าพร้อมด้วยคุณนายเดินผ่านบู้ทการประกวดโค ทั่นผู้ว่าเหลือบไปเห็นรางวัลที่ติดที่ตัวโค
จำนวน 3 ตัว ซึ่งเป็นโคที่ได้รับรางวัลจากการประกวด อันดับ 1,2,3 ตามลำดับ จึงถามเกษตรจังหวัดว่า
ผู้ว่า "เจ้าโคตัวนี้มันมีดีที่ไหน จึงได้รับรางวัลที่ 3
เกษตรจังหวัด " ในวันหนึ่ง ๆ มันสามารถผสมพันธุ์ได้วันละ 3 ครั้ง ครับท่าน"
คุณนายผู้ว่าซึ่งยืนฟังอยู่ใกล้ ๆ ก้อรีบเดินเข้าไปชิดผู้ว่า แถมเอาไหล่เข้าไปกระแทกสีข้างแล้วก้อกล่าวว่า "เห็นมั๊ย ๆ "
แล้วผู้ว่าก้อเดินต่อไปที่โคตัวที่ได้รับรางวัลที่ 2 แล้วถามเกษตรจังหวัดต่อว่า
ผู้ว่า "แล้วตัวนี้หละทั่นเกษตรจังหวัด เจ้าโคตัวนี้มันมีดีที่ไหน จึงได้รับรางวัลที่ 2
เกษตรจังหวัดจึงตอบว่า " ในวันหนึ่ง ๆ มันสามารถผสมพันธุ์ได้วันละ 5 ครั้ง ครับท่าน"
คุณนายผู้ว่าซึ่งเดินตามมาติด ๆ จึงกล่าวแกมเหน็บแนมทั่นผู้ว่าอีกว่า "เห็นมั๊ย ๆ "
ผู้ ว่าแสนจะหงุดหงิด โดยเหน็บไปหลายดอกไม่ได้เอาคืนซะที ก้อไม่ทราบจะทำอย่างไร จึงกัดฟันเดินต่อไปยังเหลือตัวที่ได้รับรางวัลที่ 1 แล้วถามเกษตรจังหวัดว่า "ไอ้ตัวนี้หละ ทำไมได้รางวัลที่ 1"
เกษตรจังหวัด "มันผสมพันธุ์ได้วันละ 9 ครั้งครับท่าน มันจึงได้รางวัล เพราะมันแข็งแรงที่สุดครับ"
คุณนายได้ทีอีกครั้ง ใส่ผู้ว่าแบบสุด ๆ ว่า "เห็นมั๊ย ๆ "
ด้วยความสงสัยผู้ว่าจึงย้อนถามเกษตรจังหวัดว่า
"ไอ้ที่มันผสมพันธุ์ได้วันละ 3 ครั้ง 5 ครั้ง 9 ครั้ง เนี่ย มันเปลี่ยนแม่พันธุ์มั๊ย หรือใช้แม่พันธุ์ตัวเดียวตลอด"
เกษตร จังหวัดจึงตอบประสาซื่อว่า "อ๋อ.... มันต้องเปลี่ยนแม่พันธุ์ทุกครั้ง ก่อนที่มันจะผสมพันธุ์ครั้งต่อไปได้ครับทั่น อย่างตัวที่ได้รางวัลที่ 1 เนี่ยต้องใช้แม่พันธุ์ถึง 9 ตัว แถมตัวหลัง ๆ ต้องใช้แม่โคสาว ๆ นะครับ มันถึงสู้สุดฤทธิ์เลย"
ผู้ว่าได้ที จึงเอาไหล่ไปกระแทกคุณนายแล้วกล่าวว่า "เห็นมั๊ย ๆ มันต้องเปลี่ยน

Saturday, September 10, 2011

คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด"


รื่อ งนี้เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ลูกค้าชายร่างล่ำบึ้กที่พูดติด อ่างอย่างรุนแรงคนหนึ่ง ได้เดินไปที่เคาน์เตอร์ แล้วถามว่า : "ผะๆ- แหนกๆ-สิน-ค้าๆผู้ๆชายอยู่-ด้านๆไหนครับ?"
พนักงานที่เคาน์เตอร์จ้องมองเขาแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร
ลูกค้าคนนั้น ก็ถามซ้ำอีกหลายครั้งว่า : "ผะๆ- แหนกๆ-สิน-ค้าๆผู้ๆชายอยู่-ด้านๆไหนครับ?"
พนักงานคนนั้นก็ไม่ยอมตอบ จนท้ายที่สุด ลูกค้าคนนั้นก็โมโหเดือดปุดๆ และปึงปังเดินออกจากห้างไป
ลูกค้าที่ยืนเข้าคิวต่อจากชายคนนั้น ก็เอ่ยถามพนักงาน : "ทำไมถึงไม่ยอมตอบที่เขาถามล่ะ?"
พนักงาน : "คุๆๆ-คุณ-คิๆๆ-คิด-ว่า-ผะๆๆ-ผม-อยาก-จะ-หะ-หาเรื่อง-โดๆๆ-โดน-ชก-รึๆ-ไง?"

Friday, September 9, 2011

ผ้าห่มของปู่ ฮาๆๆๆอยากขึ้นสวรรค์


นายดำเป็นชายโสด
อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งห่างไกลความเจริญเป็นอย่างมาก

เมื่อคืนนายดำได้ฝันถึงปู่ของเขาที่เพิ่งเสียไปในฝันเห็นปู่แค่เพียงรางๆ
แต่ได้ยินเสียงชัดเจนมาก

ปู่ของเขามาบอกเขาว่าหนาวมากอยากได้ผ้าห่มสักผืนจะได้หายหนาว แล้วก็หายวับไป

วันรุ่งขึ้นนายดำได้คิดถึงความฝันรู้สึกสงสารปู่ของเขาอย่างมาก
เขาได้เตรียมผ้าห่มไว้ 1ผืน

 แต่เกิดปัญหาเสียก่อนปัญหาคือเขาลืมถามปู่ไปว่า

จะส่งผ้าห่มให้ปู่ได้อย่างไรปู่ถึงจะได้รับและได้หายหนาวเสียที

 คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเขาก็นึกได้ว่าปู่ของเขาเป็นคนดีตอนนี้น่าจะอยู่บนสวรรค์

 คิดได้ดังนั้นเขาก็เข้าไปแต่งตัวและหยิบผ้าห่มออกจากบ้านเพื่อที่จะหาทางไปสวรรค์

 ตลอดทั้งวันเขาเจอใครที่เดินผ่านมา หรือเดินผ่านบ้านใครเขาก็จะถามถึงทางไปสวรรค์

 แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครให้คำตอบได้นายดำเดินมาตามทางอย่างคนสิ้นหวัง

นึกสงสารปู่จับใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

 แล้วเขาก็ได้หยุดเดินทางมานั่งอยู่หน้ากระท่อมหลังหนึ่ง
แล้วถอนหายใจอย่างคนปลงตก

 แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงคุยกันดังออกมาจากในกระท่อมหลังนั้น

 พี่ทนไม่ไหวแล้ว พี่จะพาน้องไปสวรรค์แล้วน่ะ
เอาเลยจ๊ะพี่ น้องพร้อมแล้ว เราไปกันเลย

นายดำได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งไปถีบประตูกระท่อมทันทีและเอ่ยขึ้นเสียงดังว่า
เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ฉันฝากผ้าห่มไปให้ปู่ฉันด้วย 

 สองผัวเมียอ้าปากค้างในขณะที่นายดำได้บอกชื่อและนามสกุลปู่เสร็จสรรพ
และเอ่ย ขอบคุณก่อนออกมาจากกระท่อม และพูดกับตัวเองเบาๆว่า

มิน่าล่ะปู่กูถึงหนาวก็คนไปสวรรค์เขาแก้ผ้ากันไปทั้งนั้น

Thursday, September 8, 2011

เรื่องนั้นน่ะเอง

ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในบาร์ พร้อมกับกล่องคุกกี้ใบหนึ่งในมือซ้ายกับเป็ดอีกตัวหนึ่งในมือขวา เขาวางกล่องคุกกี้ลงบนเคาน์เตอร์แล้ววางเป็ดลงบนกล่องอีกที ทีนี้ก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น เพราะเป็ดเริ่มเต้นรำ
คนในบาร์เริ่มพากัน มามุงดูเป็ดเต้นรำได้ ไม่เคยมีใครเห็นเป็นทำอย่างนี้ได้มาก่อน มันเต้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยพร้อมกับร้องก้าบๆอยู่ตลอดเวลาราวกับจะ เป็นการเล่นคอนเสิร์ททั้งร้องทั้งเต้นอะไรประมาณนั้น
ชายเจ้าของบาร์เห็นคนสนใจเจ้าเป็ดตัวนี้มา เขาเริ่มมองเห็นโอกาสที่จะดึงลูกค้าไว้กับร้านของเขา เขาดึงชายเจ้าของเป็ดไปกระซิบ
“ผมขอซื้อเป็ดของคุณ ผมให้สามหมื่นบาทเลย จ่ายสด เดี๋ยวนี้เลย” เขาเสนอ
ชายเจ้าของเป็ดตกลงขายเป็ดของเขา เขารับเงินสดๆสามหมื่นแล้วเดินออกจากบาร์ทันที
“เดี๋ยวก่อน” ชายเจ้าของบาร์วิ่งกระหืดกระหอบตามมา “ผมจะทำไงให้มันหยุดเต้นล่ะนี่”
“อ๋อ เรื่องนั้นน่ะเอง” ชายเจ้าของเป็ดตอบ “คุณแค่เปิดกล่องคุกกี้ออกมาแล้วดับตะเกียงซะ แค่นั้นก็เรียบร้อย...”

Wednesday, September 7, 2011

การปฐมพยาบาล


“ไงสมศรี ทำไมวันนี้ถึงได้มาสายล่ะ” ผมถามลูกน้องที่ที่ทำงาน โห น่ากลัวมากเลยค่ะ” เธอเริ่มเล่าอย่างตื่นเต้น “หนูรอรถเมล์อยู่ดีๆ มีคนวิ่งราวสร้อยผู้หญิงคนนึงที่ยืนอยู่ข้างๆหนู สร้อยขาดบาดคอผู้หญิงคนนั้นเหวอะ เลือดไหลออกมาเต็มเลยค่ะ ยังดีนะคะนี่ อาทิตย์ที่แล้วหนูเพิ่งเข้าอบรมการปฐมพยาบาลมา เลยได้โอกาสใช้ความรู้คราวนี้แหละ”
“อ้อเหรอ แล้วคุณทำยังไงล่ะ” ผมถาม
“หนูก็นั่งลงกับพื้น แล้วก็ซุกหัวลงไประหว่างเข่า ก้มหัวให้ต่ำๆไว้ จะได้ไม่เป็นลมไงคะ”

Tuesday, September 6, 2011

พ่อ & ลูกคุยกัน

พ่อลูกยืนสนทนา ในเรื่องเซ็กซ์

ลูก - พ่อเวลามีเซ็กซ์ แล้วรู้สึกยังไง
พ่อ -เหมือนกับการ เอานิ้วไปแคะขี้มูกในจมูกแหละ

ลูก - ทำไม ผู้หญิงถึงร้องครวญคราง เหมือนมีความรู้สึกดีกว่าผู้ชายครับ
พ่อ - อ้าว.. แล้วเวลาเอ็งแคะขี้มูก เอ็งรู้สึกว่า นิ้วของเอ็งดีขึ้น หรือว่ารูจมูกของเอ็งดีขึ้น...

ลูก - ในเมื่อผู้หญิงรู้สึกดีขึ้น แล้วทำไมผู้หญิงถึงเกลียดการข่มขืนล่ะ
พ่อ - มันไม่เหมือนกันแล้วถ้าเอ็งเดินอยูบน ถนนแล้วมีคนวิ่งมาเอานิ้วมาทิ่มจมูกเอ็งนะ เอ็งจะชกเขามั้ย

ลูก -แล้วทำไมผู้หญิงถึงไม่ชอบมีเซ็กซ์ในระหว่างมีประจำเดือน
พ่อ - แล้วถ้าจมูกของเอ็งเลือดไหลอยู่ เอ็งจะแคะขี้มูกมั้ย..

ลูก - ทำไมผู้ชายถึงไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเซ็กซ์
พ่อ - แล้วถ้าพ่อบังคับเอ็งใส่ถุงมือแคะขี้มูกเอ็งจะรู้สึกยังไง

ลูก - มีอีกคำถามครับพ่อ ผู้หญิงทำไมชอบบรรยากาศเงียบ ๆขณะที่เธอมีเซ็กซ์
พ่อ - อ้าว..แล้วพ่อใช้ให้เอ็งแคะขี้มูก หน้าชั้นเรียนเอ็งจะทำได้มั้ย.. โธ่ลูกพ่อเอ๊ย......

ลูก - "พ่อครับ พ่อเก่งจังเลย"

Monday, September 5, 2011

ตำนานในการตั้งชื่อของเผ่าอินเดียนแดง

เด็กชายชาวเผ่าอาปาเช่ ท่าทางหงุดหงิดงุนงงสงสัย
เดินเข้าไปหาพ่อ The Big Eagle แล้วเอ่ยถาม
" พ่อ พวกเราชาวอินเดียนแดง ได้ชื่อกันมาอย่างไร ?"
Big Eagle ตอบว่า " ง่ายมากลูก เมื่อมีเด็กเกิดใหม่
เราเห็นอะไรเป็นสิ่งแรกเราก็จะตั้งชื่อของเด็กตามสิ่งนั้น
พ่อจะยกตัวอย่างให้ฟัง"
"เมื่อพี่ชายคนโตของเจ้าเกิด พ่อเปิดกระโจมออกมา
เห็นหมาป่าสีเทากำลังวิ่งตัดข้ามเนินเขา พ่อจึงตั้งชื่อ
เขาว่า " Running Wolf "
" เมื่อพี่สาวคนโตของเจ้าเกิด สิ่งแรกที่พ่อเห็นคือ เมฆ
ก้อนเล็กๆ ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า พ่อจึงตั้งชื่อเธอว่า
Drifting Cloud"
" และเมื่อพี่สาวคนที่สองของลูกเกิด พ่อมองเห็น
พระจันทร์เต็มดวงสว่างไสว ดังนั้นเธอจึงมีชื่อว่า
Silver Moon " ...................
ทีนี้เจ้าหายสงสัยรึยังละ ฟักกิ้ง ด๊อก

Friday, September 2, 2011

ขำ ๆ ในวันสุข ก่อนจะถึงวันหยุด

หนุ่มน้อยชาวเขาเผ่าหนึ่ง ซึ่งได้หมั้นหมายกับสาวน้อยแรกรุ่นต่างเผ่า
ด้วย ความคิดถึงทรวดทรงอันอวบอิ่ม สมวัยแรกสาวบานสะพรุ่งของคู่หมั้นหมาย....หนุ่มชาวเขาตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้น จะออกเดินทางไปเยี่ยมเยียนคู่หมั้นสาวให้หายคิดถึง
เย็นวันนั้นหนุ่มบอกกับแม่ของเขาว่า กางเกงในที่ใส่อยู่มันเก่ามากแล้ว ใส่มา 3 เดือนยังไม่เคยเปลี่ยนเลย แม่ช่วยไปซื้อผ้ามาตัดให้ใหม่ที
แม่ของหนุ่มรีบรุดออกไปตลาดซื้อผ้าใหม่มา 5 เมตร และ ตัดเย็บกางเกงในอย่างประณีตสุดฝีมือให้ไอ้หนุ่มของเรา โดยใช้ผ้าหมดไป 2 เมตร ยังเหลือเก็บไว้อีก 3 เมตร
รุ่ง เช้าหนุ่มชาวเขาของเราก็รีบใส่กางเกงในตัวใหม่เอี่ยมแล้วสวมผ้าเตี่ยว ทับ และออกเดินทางไปหาคู่หมั้นสาวทันทีมิรีรอ ระหว่างทางเกิดปวดท้องหนักกะทันหัน ต้องแวะป่าข้างทางเพื่อปลดทุกข์ ไอ้หนุ่มกลัวกางเกงในใหม่จะเปื้อนจึงถอดแขวนไว้กับกิ่งไม้
แต่ด้วยอารามรีบร้อนอยากพบหน้าคู่หมั้นสาว เมื่อเสร็จภารกิจก็รีบออกเดินทางในทันที
.....อนิจจา ไอ้หนุ่มของเราลืมใส่กางเกงในที่แขวนไว้กับกิ่งไม้ไปด้วย
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านคู่หมั้นสาวในตอนเย็น ว่าที่พ่อตาได้จัดให้มีงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้าน โดยทุกคนนั่งล้อมวงรับประทานอาหารเย็น
ไอ้หนุ่มของเราเลือกนั่งตรงข้ามกับคู่หมั้นสาวเพื่อจะโชว์กางเกงในตัวใหม่ ของเขาให้คู่หมั้นสาวดู
ไอ้หนุ่มพยายามนั่งกางขาอย่างเต็มที่เพื่อให้คู่หมั้นสาวได้เห็นกางเกงในตัว ใหม่ของเขาได้ชัดๆเต็มตา
เมื่อคู่หมั้นสาวได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในผ้าเตี่ยว.....ก็เกิดอาการช็อคอ้า ปากค้าง.....
....ไอ้หนุ่มกระหยิ่มในใจคิดว่าคู่หมั้นสาวประทับใจในกางเกงในตัวใหม่ของเขา จึงลองถามออกไปว่า..

ชอบไหมจ๊ะที่รัก...ผมยังเหลืออีกตั้งสามเมตร เก็บไว้ที่บ้านนะ
คู่หมั้นสาวเป็นลมหงายหลัง ตึงในทันที.......