เย็นวันหนึ่ง เลิศชายประกาศข่าวดีเสียงลั่นบ้านด้วยความตื่นเต้น..
"คุณพ่อครับ..คุณแม่ครับ ผมมีข่าวใหญ่มาบอกครับ..
ผมจะแต่งงานกับสาวสวยที่สุดในอำเภอนี้
เธอชื่อ นิดหน่อย ครับ บ้านอยู่ถัดเราไป นิดเดียวเอง"
หลังอาหารเย็น.. พ่อก็ดึงเลิศชายไปคุยกันสองต่อสอง
"ลูก.. พ่อมีเรื่องคุยด้วย พ่อกับแม่แต่งงานกันมาสามสิบปีแม่ของลูกเป็นเมียที่ดี
เป็นแม่ศรีเรือนที่ไม่มีอะไรบกพร่อง แต่เสียที่เรื่องสำคัญของชีวิตคู่
พ่อเลยแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นไว้หลายคน
ความจริงน่ะ นิดหน่อยเป็นพี่น้องกับลูก เพียงแต่คนละแม่ ลูกแต่งงานด้วยไม่ได้นะ"
หัวใจของเลิศชายแหลกสลาย มีอาการซึมเศร้าไปร่วมปี
กว่าจะทำใจได้ และออกไปจีบสาวคนใหม่ ไม่นานนักก็กลับบ้านมาประกาศข่าวดีอีก.."ผมคุยกับน้ำตาลแล้วครับ คุณพ่อคุณแม่ อีกสองเดือนเราจะแต่งงานกัน"
ครั้งนี้คุณพ่อก็ดึงตัวเลิศชายไปคุยกันสองต่อสองอีกครั้ง
"น้ำตาลก็เป็นน้องของลูกเหมือนกัน พ่อเสียใจจริงๆ ที่ลูกจะไม่ได้แต่งงาน"
เลิศชายหงุดหงิดจนคลั่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจไปฟ้องแม่..
"พ่อทำงี้ได้ไง พ่อเที่ยวไปมีลูกกับผู้หญิงอื่นทั่วอำเภอ
แล้วอย่างนี้ เมื่อไรผมถึงจะได้แต่งงาน
พอผมไปรักกับสาวคนไหน ก็กลายเป็นว่าจีบน้องสาวคนละแม่เข้าทุกที"
แม่ของเลิศชายได้ยินแล้วแทนที่จะโกรธ กลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
"ไม่ต้องไปฟังคำที่พ่อเค้าพูดเลย.. ลูก ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นพ่อของลูกหรอก !!!"
Monday, May 30, 2011
Thursday, May 26, 2011
เด็กฉลาด
วันหนึ่งป้ากับหลานสาวจอมซนวัย 6 ขวบ
ก็นั่งคุยกันถึงเรื่องการไปโรงเรียนของหลานสาว
ป้า : นี่เจ้าตัวยุ่งเปิดเทอมหน้านี้น่ะ
ถ้าป้าจะให้ไป-กลับโรงเรียนเองคนเดียวไปได้ไหม?
หลาน : ได้สิป้า หนูไปได้อยู่แล้ว
ป้า : ถ้าขึ้นรถเมล์แล้วจะลงป้ายหน้าบ้านถูกหรือจ๊ะ
หลาน : ถูกจ้ะ หนูจำทางได้แล้ว
ป้า : ถ้ากดกริ่งไม่ถึงจะทำยังไงล่ะ
หลาน : หนูก็บอกกระเป๋ารถให้กดให้น่ะสิป้า
ป้า : อืมม์ ใช้ได้นะเนี่ยเราน่ะ
แล้วถ้ากระเป๋าอยู่ไกลแล้วไม่ได้ยินเราพูดล่ะ
หลาน : หนูก็ตะโกนบอกคนขับน่ะสิไม่เห็นยากเลย
ป้า : เก่งมากหลานป้า....รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
แล้วหนูจะบอกคนขับรถว่ายังไงล่ะลูก?
หลาน : หนูก็ตะโกนบอกคนขับสิว่า "กดกริ่งด้วยยยยยยย"
ป้า : ????????
ก็นั่งคุยกันถึงเรื่องการไปโรงเรียนของหลานสาว
ป้า : นี่เจ้าตัวยุ่งเปิดเทอมหน้านี้น่ะ
ถ้าป้าจะให้ไป-กลับโรงเรียนเองคนเดียวไปได้ไหม?
หลาน : ได้สิป้า หนูไปได้อยู่แล้ว
ป้า : ถ้าขึ้นรถเมล์แล้วจะลงป้ายหน้าบ้านถูกหรือจ๊ะ
หลาน : ถูกจ้ะ หนูจำทางได้แล้ว
ป้า : ถ้ากดกริ่งไม่ถึงจะทำยังไงล่ะ
หลาน : หนูก็บอกกระเป๋ารถให้กดให้น่ะสิป้า
ป้า : อืมม์ ใช้ได้นะเนี่ยเราน่ะ
แล้วถ้ากระเป๋าอยู่ไกลแล้วไม่ได้ยินเราพูดล่ะ
หลาน : หนูก็ตะโกนบอกคนขับน่ะสิไม่เห็นยากเลย
ป้า : เก่งมากหลานป้า....รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
แล้วหนูจะบอกคนขับรถว่ายังไงล่ะลูก?
หลาน : หนูก็ตะโกนบอกคนขับสิว่า "กดกริ่งด้วยยยยยยย"
ป้า : ????????
Wednesday, May 18, 2011
หมอเก่งจัง
คุณเปรมปรีย์ : "สวัสดีครับ คุณหมอ" ( พอเข้ามาในห้องตรวจก็ยกมือไหว้ )
หมอเก่งจัง
หมอ : "สวัสดีครับ...คุณมาหาหมอเพราะมีปัญหาเรื่องสายตาใช่มั้ยครับ"
คุณเปรมปรีย์ : "โอว์ ! ( อุทานด้วยความประหลาดใจ ) คุณหมอนี่เก่งจัง รู้ได้อย่างไรครับ ? "
หมอ : เอ้อ...ก็ตะกี้ตอนคุณเข้ามา คุณยกมือไหว้ตู้เย็น น่ะครับ "
หมอเก่งจัง
หมอ : "สวัสดีครับ...คุณมาหาหมอเพราะมีปัญหาเรื่องสายตาใช่มั้ยครับ"
คุณเปรมปรีย์ : "โอว์ ! ( อุทานด้วยความประหลาดใจ ) คุณหมอนี่เก่งจัง รู้ได้อย่างไรครับ ? "
หมอ : เอ้อ...ก็ตะกี้ตอนคุณเข้ามา คุณยกมือไหว้ตู้เย็น น่ะครับ "
Saturday, May 14, 2011
กฎ 2 ข้อ ของนักศึกษาแพทย์
เข้าเรียนวิชากายวิภาควิทยาเป็นครั้งแรก กับศพจริงซึ่งเป็นร่างกายของชายผู้เสียชีวิตแล้ว
นักเรียนทุกคนล้อมรอบโต๊ะผ่าตัด ซึ่งมีร่างศพคลุมด้วยผ้าผืนสีขาว
ศาตราจารย์ได้เริ่มการสอนโดยกล่าวกับ
นักศึกษาแพทย์ศาตร์ทั้งหลายว่า "ในวิชาแพทย์ศาสตร์"
มีเพียง 2 สิ่งสำคัญที่จะทำให้ท่านนั้น
มีคุณสมบัติเป็นแพทย์ที่มีคุณภาพได้ คือ
ข้อแรก..."มันเป็นความจำเป็นที่ท่านจะไม่ขยะแขยง" ศาตราจารย์ได้เปิดผ้าคลุมขึ้นและยัดนิ้วเข้าไปในรูทวารหนักของศพ
แช่ไว้และเอานิ้วออกมา เขาดูดให้นักเรียนดู ศาตราจารย์กล่าวกับนักเรียนว่า
"เอ้า! เร็ว นักศึกษาจงทำ!!" นักศึกษาแพทย์ต่างกลัวในเหตุการณ์ที่วิตถารเช่นนี้
แต่ภายหลังต่างก็หันมาผลัดกันยัดนิ้วของตนเข้าไปที่ทวารหนักของศพ
และนำมาดูดหลังจากเอานิ้วออกมา
ครั้นเสร็จสิ้นจนครบทุกคน
ศาตราจารย์เพ่งไปที่นักเรียนแพทย์และกล่าวขึ้น... คุณสมบัติของแพทย์ที่ดี..
ข้อที่สอง..คือ ต้องเป็นคนช่างสังเกตุ...เมื่อกี้อาจารย์เอานิ้วกลางยัดเข้าไป
แต่อาจารย์ดูดที่นิ้วชี้
"กรุณาสนใจการสอนหน่อย..นักศึกษาทุกท่าน !!"
55555555555555555555
นักเรียนทุกคนล้อมรอบโต๊ะผ่าตัด ซึ่งมีร่างศพคลุมด้วยผ้าผืนสีขาว
ศาตราจารย์ได้เริ่มการสอนโดยกล่าวกับ
นักศึกษาแพทย์ศาตร์ทั้งหลายว่า "ในวิชาแพทย์ศาสตร์"
มีเพียง 2 สิ่งสำคัญที่จะทำให้ท่านนั้น
มีคุณสมบัติเป็นแพทย์ที่มีคุณภาพได้ คือ
ข้อแรก..."มันเป็นความจำเป็นที่ท่านจะไม่ขยะแขยง" ศาตราจารย์ได้เปิดผ้าคลุมขึ้นและยัดนิ้วเข้าไปในรูทวารหนักของศพ
แช่ไว้และเอานิ้วออกมา เขาดูดให้นักเรียนดู ศาตราจารย์กล่าวกับนักเรียนว่า
"เอ้า! เร็ว นักศึกษาจงทำ!!" นักศึกษาแพทย์ต่างกลัวในเหตุการณ์ที่วิตถารเช่นนี้
แต่ภายหลังต่างก็หันมาผลัดกันยัดนิ้วของตนเข้าไปที่ทวารหนักของศพ
และนำมาดูดหลังจากเอานิ้วออกมา
ครั้นเสร็จสิ้นจนครบทุกคน
ศาตราจารย์เพ่งไปที่นักเรียนแพทย์และกล่าวขึ้น... คุณสมบัติของแพทย์ที่ดี..
ข้อที่สอง..คือ ต้องเป็นคนช่างสังเกตุ...เมื่อกี้อาจารย์เอานิ้วกลางยัดเข้าไป
แต่อาจารย์ดูดที่นิ้วชี้
"กรุณาสนใจการสอนหน่อย..นักศึกษาทุกท่าน !!"
55555555555555555555
Subscribe to:
Posts (Atom)