Pages

Thursday, September 29, 2011

ตาบอดคลำหมา

ชาย ตาบอดคนหนึ่ง ขณะกำลังยืนอยู่ริมถนนพร้อมกับหมาของเขา เจ้าหมาคู่ใจ ก็ยกขาข้างหนึ่ง แล้วก็ฉี่รดขากางเกงของผู้เป็นนาย ชายตาบอดเจ้าของหมา ก็หยิบขนมออกมาจากกระเป๋าชิ้นหนึ่ง ส่งให้มัน มีชายคนหนึ่ง ซึ่งเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ก็กล่าวกับชายตาบอดว่า "ให้มันทำไม มันทำแบบนั้น แล้วคุณก็ยังให้รางวัลมัน ผมว่า มันไม่ถูกต้องนะ"
ชายตาบอด : "ผมไม่ได้ให้รางวัลมันหรอกนะ ผมเพียงแค่กำลังหาว่าปากมันอยู่ตรงไหน เพื่อว่าผมจะได้ซัดก้นมันซักป้าบนึง"

Wednesday, September 28, 2011

ชายสามคน

ชายสามคน ได้เสียชีวิตลง วิญญาณพวกเขาก็ล่องลอยไปสู่ประตูสวรรค์ พวกเขาก็ได้พบกับเซนต์ ปีเตอร์ซึ่งได้แจ้งให้ทราบว่ามีที่ว่างเพียงที่เดียวเท่านั้น เซนต์ ปีเตอร์ก็ได้ถามถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเสียชีวิต
ชายคนแรก:"วันนั้น ผมกลับมาบ้าน ก็เห็นภรรยาผม นอนเปลือยกายอยู่บนเตียง ผมก็ตรวจดูรอบๆบ้านจนมาถึงระเบียง ผมก็เห็นนิ้วมือมือคนเกาะอยู่ ผมคว้าได้ฆ้อน ก็หวดลงไปทีหนึ่ง เขาร่วงลงไปบนพุ่มไม้ ผมก็ดันตู้เย็นแล้วก็ผลักลงไปทับหัวมัน ผมรู้สึกแย่มากที่ได้ฆ่าคนตาย ผมก็เลยฆ่าตัวตาย"
ชายคนที่สอง:"ผมกำลังทาสี อยู่บนตึกชั้นที่37 เกิดเหยียบพลาด พลัดตกลงมา ผมคว้าราวระเบียงได้ แล้วใครก็ไม่รู้ เอาฆ้อนมาทุบที่มือผมจนผมร่วงลงมา แล้วยังผลักตู้เย็นลงมาทับผมจนเละ"
ชายคนที่สาม:"ผมก็แค่แอบอยู่ในตู้เย็น ไม่รู้เรื่องอะไรเลย"

Tuesday, September 27, 2011

บุญมีแต่ตาไม่ถึง

ในหมู่บ้านเล็กๆเห่งหนึ่งมีบาทหลวงนับถือในพระผู้เป็นเจ้ามาก
วันหนึ่งน้ำท่วมใหญ่ทุกคนในหมู่บ้านต่างอพยพหนี แต่บาทหลวงยังสวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้า
เมื่อระดับน้ำสูง มีชายคนหนึ่งบอกให้บาทหลวงขึ้นมาบนเรือ บาทหลวงปฎิเสธ แล้วบอกว่า
"ท่านไปก่อนเถิด แล้วพระเป็นเจ้าจะมาช่วยเราเอง"
หลังจากนั้นมีชายอีก 2 คนมาช่วยบาทหลวง แต่บาทหลวงยังคงยืนกรานเช่นเดิมจนบาทหลวงจมน้ำตาย และไปหาพระเป็นเจ้าบนสวรรค์
บาทหลวงถามพระเป็นเจ้าว่า
"ทำไมพระองค์ไม่ช่วยกระผมครับ"
พระเป็นเจ้าตรัสตอบไปว่า " ข้าส่งคนไปช่วยเจ้าแล้ว แต่เจ้า...ปฏิเสธ "

Monday, September 26, 2011

จุดประทัด

ไอ้หนุ่มสองคนนั่งคุยกันอยู่ในบาร์
หนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้น "ชีวิตเซ็กซ์ของนายเป็นไงวะเพื่อน"
"แย่ว่ะ" อีกคนหนึ่งตอบ "ทุกทีที่มีอะไรกัน อยู่ๆเธอก็หมดอารมณ์ไปเฉยๆตอนเข้าด้ายเข้าเข็ม เซ็งเลยว่ะ"
"อ๋อ เข้าใจเลยว่ะ กันก็เคยมีปัญหาแบบนี้ แต่มีวิธีแก้ว่ะ กันซ่อนประทัดไว้ใต้เตียง พอเธอเริ่มหมดอารมณ์ กันก็จะจุดประทัด มันทำให้เธอตกใจ และตื่นเต้นพอที่เราจะทำมันต่อได้ กันใช้วิธีนี้มาหลายปีแล้วว่ะ"
"อืมมม น่าสนใจว่ะ กันจะลองดู"
วันถัดมาสองหนุ่มกลับมาที่บาร์อีกที
"นายได้ลองประทัดรึยังวะ" หนุ่มคนแรกถามอีก
"ไม่ อยากพูดถึงมันเลยว่ะ" อีกหนุ่มเซ็งสุดขีด "กันลองมันเมื่อคืน ตอนที่เราอยู่ในท่า 69 จู่ๆเธอก็ทำท่าจะหมดอารมณ์อย่างเคย กันก็เลยรีบจุดประทัด"
"แล้วเป็นไงวะ"
"เธอตกใจงับไอ้น้องชายกัน เข้าไปเต็มแรง แถมฉี่ราดใส่หน้ากันอีก แล้วที่แย่ที่สุด มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งตะกายออกมาจากตู้เสื้อผ้าร้องขอชีวิตกับกันอีกว่ะ"

Saturday, September 24, 2011

ไม่เสียใจ


วันหนึ่งมีเด็กสองคนชายหญิง
ไปเล่นที่สวนสาธารณะด้วยกัน
เด็กชาย-เธอ เชื่อไหมฉันมีของที่เธอไม่มีแหละ
เด็กหญิง-ไม่เชื่อหรอก
เด็กชายเปิดเสื้อแล้วชี้ที่สะดือ
เด็กหญิงทำตามบอกว่ามีเด็กชายชี้ที่หัวนม
เด็กหญิงตอบว่ามี
จากนั้นเด็กชายก็ถอดกางเกงออกชี้ไปที่จู๋
เด็กหญิงทำตามเมื่อมองดูก็ร้องไห้
เพราะตัวเองไม่มีเด็กชายหัวเราะเยาะ
เด็กหญิงจึงวิ่งร้องไห้กลับบ้าน
จากนั้นหลายวันผ่านไปเด็กสองคนมาเจอกันอีก
เด็กชายจึงถามว่าเธอไม่เสียใจเหรอที่เธอไม่มีเหมือนชั้น
เด็กหญิง-ไม่ย่ะแม่ชั้นบอกว่า
ตราบใดที่ชั้นมีไอ้นี่(ชี้ไปที่...ของตัวเอง)
ฉันจะหาไอ้นั่นอีกกี่อันก็ได้

Friday, September 23, 2011

ขึ้นราคาแล้ว

ยายคนหนึ่งมีอาชีพขายขนม ไทย แต่ขายได้ไม่ดีนัก เพราะขนมไทยไม่เป็นที่นิยมมากเท่าใด แต่ทุกเช้า จะมีชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง มาซื้อขนมกับแกทุกวัน โดยชายหนุ่มจะยื่นเงินให้ยายคนนั้น 20 บาท โดยที่ไม่ได้รับขนมไปเลย แต่ชายหนุ่มคนนั้น ก็ทำเช่นนี้มาตลอด ไม่มีขาด ยายก็ได้แต่พูดขอบใจทุกครั้ง


อยู่ มาวันหนึ่ง ชายหนุ่มก็ทำเช่นเดิม ยื่นเงินให้ยาย 20 บาท แล้วกำลังจะเดินจากไป แต่คราวนี้ ยายจับแขนชายหนุ่มไว้ แล้วเอ่ยปากว่า พ่อหนุ่ม ชายหนุ่มรีบตอบกลับว่า ยายครับ ยายไม่ต้องสงสัยหรือเอ่ยถามหรอกครับ ผมทำแบบนี้ทุกวัน เพราะอยากช่วยยายครับ ชายหนุ่มตอบพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน
ยายตอบกลับว่า เปล่า... คือ ยาย.. อยากจะบอกว่า ขนมของยายขึ้นราคาเป็น 25 บาทแล้ว...

Thursday, September 22, 2011

กุหลาบนักการเมือง.....

นักการเมืองใหญ่รายหนึ่งเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการป่วย อะไรซักอย่าง(ไม่แน่ใจ ว่าเบาหวานหรือโรคหัวใจหรือม่ายก็ทำตาสองชั้นเอ้า...) แต่ด้วยความที่เขาเป็นตัวแสบขนานแท้ ชอบใช้อำนาจบาตรใหญ่กับพยาบาลจนไม่มีใครเข้าหน้าติด จะมีก็แต่หัวหน้าพยาบาลคนเดียวที่กล้าแหยม เธอเดินเข้าไปหานักการเมืองหย่าย...
"ขอวัดอุณหภูมิหน่อยนะคะ" เธอว่า
นักการเมืองโวยวายอยู่สักพัก ก่อนจะอ้าปากให้อย่างเสียไม่ได้
"ขอโทษค่ะ" หัวหน้าพยาบาลพูดอย่างใจเย็น "ไม่ใช่วัดทางปากค่ะ"
คราวนี้นักการเมืองยิ่งฉุนหนัก เขาโวยวายสาปแช่งอยู่เกือบห้านาทีกว่าจะยอมโก้งโค้งให้เอาปรอทแหย่ก้น
"ทิ้งไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวชั้นไปเอาชาร์ท ห้ามขยับจนกว่าชั้นจะกลับมานะคะ" เธอว่า
เธอ เดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะเปิดประตูทิ้งไว้  ทุกคนที่เดินผ่านห้องนี้ต้องแอบหัวเราะกับภาพที่เห็น จนสิบนาทีผ่านไปนั่นแหละ หมอเจ้าของไข้ถึงได้เดินเข้ามาในห้อง
"เกิดอะไรขึ้นครับเนี่ย?" หมออุทาน
"แล้วมันหนักหัวอะไรหมอล่ะ" นักการเมืองโวยอย่างหยาบคาย "ไม่เคยเห็นคนวัดอุณหภูมิทางก้นมาก่อนเรอะไง"
"อ๋อ... เคยสิครับ" หมอกลั้นยิ้ม "แต่ไม่เคยเห็นใครใช้ดอกกุหลาบวัด!!!"

Wednesday, September 21, 2011

หาลำไพ่พิเศษ


ในหมู่บ้านทางภาคอีสานแห่งหนึ่ง มีเด็กชายที่ฉลาดและใฝ่รู้ ชื่อหนูจุ่น เป็นนักเรียนชั้นประถม ที่เรียนดี และเป็นลูกที่ดีของพ่อจวน ในวันแรกของการปิดภาคเรียนฤดูร้อน หนูจุ่นก็เดินหน้าระรื่นไปบอกกับพ่อจวนว่า
หนูจุ่น:   พ่อจ๋า ผมได้งานพิเศษทำในช่วงวันหยุดปิดเทอมแล้วหล่ะ (เจ้าจุ่นทำหน้าอมยิ้ม ที่แฝงไปด้วย ความภาคภูมิใจ)
พ่อจวนพยักหน้ายิ้มและถามว่า
พ่อจวน:   แล้วเอ็งจะไปทำงานพิเศษอะไร กับใครหรือว่ะ ไอ้จุ่น
หนูจุ่นหัวร่อกิ๊กๆแล้วตอบว่า
หนูจุ่น:   น้ากำนัลเขาจ้างหนูไปกวาดใบไม้แห้งที่ใต้ต้นไม้หน้าบ้านของแกจ๊ะ ต้นละตั้ง 5 บาทแน่ะ ดีไหมจ๊ะพ่อ
พ่อ จวนโบกมือไหวๆ ไล่หนูจุ่นออกไปและยิ้มอย่างมีความสุข เจ้าจุ่นก็ออกวิ่งตั๊กๆหายไปสักพัก เวลาล่วงไป ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าหนูจุ่น ก็วิ่งตื๋อกลับมาบ้าน หน้าบานพร้อมชูเงินใบแดงๆ ใบละ100 บาทหร๋ามาด้วย
หนูจุ่น:    พ่อ..พ่อจ๋า หนูกลับมาแล้วจ้า
พ่อจวนมองดูหนูจุ่นอย่าง งงๆ และเห็นเงินใบแดงๆมาด้วย จึงตะโกนถามไปว่า
พ่อจวน:   โอ้โฮ..เอ็งได้เงินมายังไงหาไอ้จุ่น ถึงได้เงินมาตั้ง 100 บาท สงสัยเอ็งไม่ต้องกวาดใบไม้ตั้ง 20 ต้นหรือวะไอ้จุ่น
หนูจุ่นยิ่มจนปากจะฉีกด้วยความภูมิใจก่อนจะตอบไปว่า
หนูจุ่น:   ป่าวจ่ะพ่อ หนูไปกวาดใบไม้แห้งใต้ต้นไม้ที่ลานหน้าบ้านแค่ต้นเดียวเอง
พ่อจวนทำหน้าตาตื่นๆ
พ่อจวน:   อะไรกันวะ ท่านกำนัลเขาใจดีให้เงินเอ็งกวาดต้นไม้ต้นเดียวตั้ง 100 บาทเชียวหรือวะ
หนู จุ่น:   ป่าวจะพ่อ ตอนที่ผมกำลังกวาดใบไม้ไม่นาน หมาของน้ากำนัลก็วิ่งมากัด น้ากำนัลเลยให้เงินมา 100 บาทปลอบใจ ดีมั๊ยพ่อ ได้เงินมาแบบไม่ต้องเหนื่อยเลย ……พ่อจวนทำหน้า งงๆ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี….เฮ้อ

Tuesday, September 20, 2011

ฮาๆ ใครจะรู้

กาล ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งหลงใหลในรสชาติของถั่วอบเป็นอันมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจบ้าง ยามเมื่อต้องปล่อยแก๊สออกมา แต่เขาก็ยังชอบที่จะกินถั่ว
แล้ววันหนึ่งเขาพบหญิงสาวสวยถูกใจมากนางหนึ่ง
หลังจากใกล้ชิดสนิทสนมกันพอควร เขาก็ตกหลุมรักหล่อน
และตกลงใจปลงใจที่จะแต่งงาน
ตามด้วยการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ ที่จะเลิกกินถั่ว!! เพราะขืนยังกินอยู่ ต้องอายสาวเจ้าน่าดู๊...
หลัง จากงานแต่งงานผ่านไป 2-3 เดือนวันหนึ่งระหว่างทางขับรถบ้าน หลังเลิกงานรถเจ้ากรรมเกิดเสีย... เนื่องจากบ้านของเขาอยู่ชนบท จึงไม่มีรถประจำทางไปถึง หนทางเดียวที่จะกลับบ้านได้ คือ ต้องเดิน เขาจึงโทรศัพท์ไปหาภรรยา เพื่อบอกว่า เขาอาจจะถึงบ้านช้าสักหน่อย เพราะรถเสีย และต้องเดินเท้ากลับบ้าน


ระหว่าง ทางกลับบ้าน เขาเดินผ่านร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง แล้วกลิ่นถั่วอบก็โชยออกมายั่วใจเขา เขาจึงคิดเข้าข้างตัวเองว่า กว่าจะเดินกลับถึงบ้านก็ต้องใช้เวลา และพลังงานมากน่าดู น่าจะหาอะไรรองท้องสักหน่อย ว่าแล้วเขาจึงเดินเข้าไปสั่ง ถั่วอบ 3 ถุงใหญ่พิเศษ!
 เพื่อเดินกินระหว่างทางกลับบ้านเขาเดินไปกินไป อย่างเพลิดเพลินจนถั่วหมดโดยไม่รู้ตัว และเขาก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
ครั้นเมื่อกดกระดิ่งปุ๊บ ภรรยารักเดินออกมาเปิดประตู พร้อมกับพูดว่า

“สวัสดีค่ะ ที่รัก..
น้องมีสิ่งจะทำให้พี่ประหลาดใจอย่างที่สุดในอาหารมื้อเย็นวันนี้เลยละค่ะ”

ว่า แล้วเธอ ก็ควักผ้าปิดตามาปิดฉับลงที่ใบหน้าสามี และจูงเขามานั่งที่เก้าอี้ที่หัวโต๊ะอาหาร และให้เขาสัญญาว่าจะไม่ใช้แทคติค ใดๆ แอบมองอย่างเด็ดขาด ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกว่า มีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวในท้องของเขา
โชคช่วยที่เผอิญมีเสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น ภรรยาที่กำลังจะเอื้อมมือมาเปิดผ้าผูกตา จึงบอกว่า ขอเวลาไปรับโทรศัพท์ประเดี๋ยว แต่พี่ห้ามแอบดู ก่อนน้องจะกลับมานะ เธอย้ำ แล้วก็ไป...

ขณะที่ภรรยาไปรับโทรศัพท์ เขาก็ฉวยโอกาสนี้ ผายลม เสียงของมันไม่ดังนัก
แต่เหม็นราวไข่เน่าทีเดียว จนแม้แต่ตัวเขาเองยังต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไล่กลิ่น
หลังจากรู้สึกว่า ดีขึ้น ลมระลอกใหม่ก็เริ่มบุกอีก แน่นอน เขาเริ่มผายลมระลอกใหม่ เสียงมันดังราวเครื่องยนต์ดีเซลกำลังทำงาน
กลิ่นแย่ยิ่งกว่าเดิมอีก...เขาจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกไปมาอย่างรวดเร็ว โดยหวังว่า จะทำให้กลิ่นมันจางลงไปบ้าง

แต่ไม่ทันไร ข้าศึกชุดใหม่ก็มาถึง คราว นี้แย่ยิ่งกว่า 2 ครั้งแรก หน้าต่างสั่นไหวเพราะแรงลม จานบนโต๊ะเขย่า และนาทีต่อมาดอกไม้บนโต๊ะก็เหี่ยวเฉา ก็เพราะสัญญาว่าจะไม่เปิดตา เขาจึงไปไหนไม่ได้ นอกจากต้องนั่งอยู่ที่โต๊ะ รอจนกว่าภรรยาจะกลับมา
เขานั่งรออยู่ราว 10 นาที และเป็น 10 นาที ที่มีกิจกรรมแบบว่าตลอด ผายลม..
โบก ผ้าเช็ดหน้า.. ซ้ำไปซ้ำมา.. เมื่อเขาได้ยินเสียงภรรยาวางโทรศัพท์ เขาจึงรีบพับผ้าเช็ดหน้าใส่กระเป๋า และยิ้มให้ภรรยาอย่างไร้เดียงสา ราวกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ภรรยากล่าวขอโทษที่คุยโทรศัพท์นานไปหน่อย และถามว่า
เขาไม่ได้แอบดูแน่นะ
...

เมื่อเขายืนยัน เธอจึงปลดผ้าผูกตาให้เขา พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอันชวนตื่นเต้นว่า “Surprise”
เป็น ช่วงเวลาอันน่าสะพึงกลัว... ที่เขาพบว่า มีแขกนั่งอยู่รอบโต๊ะกินข้าว 12 คน เพื่อร่วมงาน Surprise party ในงานวันเกิดของเขานั่นเอง

Monday, September 19, 2011

บำเพ็ญพรหมจรรย์


ที่วัดของหลวงพ่อจิตตาวัน มีบรรดาผู้มาบำเพ็ญบุญมากมายโดยเฉพาะอย่างยิ่งการบำเพ็ญพรหมจรร ย์ สามี
ภรรยาสามคู่มาสมัครบำเพ็ญพรหมจรรย์กับเขาด้วย คู่แรกอายุราว 40 ปีเป็นเจ้าของฟาร์ม คู่ที่สองอายุราว
30 ปี เป็นเจ้าของอู่แท็กซี่ ส่วนคู่ที่สามบุญพรหมและภรรยาอายุราว 20 ปีมีอาชีพรับจ้างทั้งสองคน หลวงพ่อ
บอกกับพวกเขาว่า การที่จะมาบำเพ็ญพรหมจรรย์ในวัดได้นั้น ทั้งคู่ต้องฝึกงดการมีกิจกรรมทางเพศให้ได้
อย่างน้อยสามสัปดาห์เสียก่อนหลวงพ่อจึงจะรับไว้บำเพ็ญบุญได้
สามสัปดาห์ผ่านไป สามีภรรยาคู่แรกมาหาหลวงพ่อ หลวงพ่อถามถึงเรื่องการงดกิจกรรมทางเพศ
สามี 40 : พวกผมทำได้โดยไม่ยากครับ วันๆผมจะเข้าไปทำงานในคอกวัวส่วนภรรยาผมชอบปลูกดอกไม้
เราแทบจะไม่ได้เจอหน้ากันเลย
หลวงพ่อ : ดีมาก อาตมารับโยมทั้งสองได้ เอ้า ! แล้วโยมคู่นั้นล่ะเป็นอย่างไรบ้าง ?
สามี 30 :  มันยากมากเลยครับหลวงพ่อ แต่เมื่อพวกเรามีความตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วก็ต้องพยายามจนถึง
ที่สุด พวกเราต้องแยกเตียงกันนอนและในที่สุด พวกเราก็ทำได้ครับ
หลวงพ่อ : ดีมาก อาตมารับโยมทั้งสองได้ แล้วนั่น ! โยมบุญพรหมเป็นไงบ้าง ?
บุญพรหม : โอ้ หลวงพ่อ มันยากที่สุดเลย อาทิตย์แรกก็พอจะได้เรื่อง แต่พอขึ้นอาทิตย์ที่สองมันก็ทำท่าจะดี
จนกระทั่งวันหนึ่ง ภรรยาผมทำกระเป๋าถือเธอหล่น พอเธอก้มลงไปเก็บเท่านั้นผมก็กลั้นไปไหวแล้วจึงได้จัด
การเธอตอนนั้นเลย นั่นเป็นครั้งแรกที่เผลอใจ
หลวงพ่อ : โอ๊ย ! หลวงพ่อให้พวกโยมมาอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก กลับไปเสียเถอะ
บุญพรหม : ครับ ผมไม่ว่าหลวงพ่อหรอก เพราะขนาดที่สายบัวคาเฟ่ยังไม่ยอมให้พวกเราเข้าร้านเขาอีกเลย

Saturday, September 17, 2011

เข้าผิดห้อง

นายหงอกมีโอกาสจะได้ไปเที่ยวทัศนาจรต่างประเทศ แต่ด้วยความที่รู้ภาษาอังกฤษงู ๆ ปลา ๆ จึงมาถามเพื่อนว่า

เรื่องอะไรฉันก็ไม่วิตกจะกินจะนอนอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น แต่เรื่องส้วมนี่ฉันกลัวจริง ๆ กลัวจะเข้าห้องผิด อายเขาตายห่ะ

เพื่อน ที่มีความรู้ภาษาอังกฤษชนิด เสน็ก ๆ ฟิช ๆ ก็บอกว่า ห้องสุขาชายเขาจะเขียนว่า MAN ของผู้หญิงเขาจะเขียนว่า WOMAN นายหงอกก็บอกว่าเผื่อจำไม่ได้ล่ะ

นายแมวเพื่อนผู้หวังดีก็บอกว่า

ก็จำไว้ซีผู้ชายตัวหนังสือมันสั้นกว่า ห้องผู้หญิงมันยาวกว่า

นายหงอกก็จำไว้ให้ขึ้นใจ เมื่อกลับจากทัศนาจรแล้วก็มาต่อว่านายแมวว่า

ฉันก็เข้าห้องสุขาที่มันเขียนสั้น ๆ แล้วนี่หว่า พอออกมาผู้หญิงมองกันใหญ่เลย

แกเข้าห้องที่เขาเขียนว่ายังไง ใช่ภาษาอังกฤษหรือเปล่า

นายหงอกก็บอกว่า

ห้องหนึ่งมันเขียนยาวเฟื้อย ฉันก็เข้าห้องที่เขียนสั้นน่ะซี ไอ้เราก็สงสัยว่าทำไมมันไม่มีที่ฉี่

นายแมวสงสัย

จำได้ไหมห้องที่แกเข้ามันเขียนว่ายังไง

จำได้ซีมันสั้นนิดเดียว มีตัวแอล เอ ดี วาย

Friday, September 16, 2011

ซุปเปอร์จ๋อ


ตำรวจนายหนึ่งไปเจอรถ ซึ่งประสบอุบัติเหตุพังยับเยิน คนขับและคนที่นั่งมาด้วยตายเรียบ ขณะที่เขา กำลังตรวจดูซากรถ ก็มีเจ้าลิงน้อยตัวหนึ่งกระโดดออกมาจากป่าละเมาะแล้วกระโดดเต้น"ฮิปห็อป"ไป รอบๆซากรถ ตำรวจมองไปที่เจ้าจ๋อแล้วกล่าว : "ถ้าเอ็งพูดได้ ก็คงจะดีซินะ"
เจ้าลิงน้อยเงยหน้าขึ้นมองตำรวจ แล้วผงกศรีษะขึ้นลง
ตำรวจ : "เอ็งเข้าใจที่ข้ากำลังพูดเรอะ?"
เจ้าลิงน้อยผงกศรีษะตอบรับอีกครั้งหนึ่ง

ตำรวจ : "อืม..เอ็งเห็นตอนที่เหตุมันเกิดใช่มั้ย?"
"เห็นสิ" เจ้าลิงน้อยแสดงท่าทางตอบรับ
ตำรวจ : "ไหนบอกซิว่ามันเกิดขึ้นยังไง?"
เจ้าลิงน้อยทำท่าทางว่ามีกระป๋องอยู่ในมือแล้วยกขึ้นแตะที่ปาก
ตำรวจ :"พวกเขาดื่มกันเรอะ?"
เจ้าลิงน้อย :"ใช่ๆ"
ตำรวจ : "แล้วไงอีก?"
เจ้าลิงน้อยทำท่าทางคีบนิ้วเข้าหากันแล้วเอามาแตะที่ปาก
ตำรวจ : "พวกเขาสูบกัญชากันเรอะ?"
เจ้าลิงน้อย :"ใช่ๆ"
ตำรวจ:"เดี๋ยวๆ..นี่เอ็งกำลังบอกข้าว่า พวกเจ้านายของเอ็งเนี่ย ได้ดื่มเบียร์แล้วก็สูบกัญชากันในรถ ก่อนที่รถจะคว่ำพังยับทั้งคัน"
เจ้าลิงน้อย :"ใช่ๆ"
ตำรวจ : "แล้วในระหว่างนั้น เอ็งทำอะไรวะ?"
เจ้าจ๋อตอบด้วยการทำท่าทางให้ดูว่าู : "ตอนนั้น ฉันก็ถือพวงมาลัยนะสิ" ( 5555 )

Monday, September 12, 2011

เห็นมั๊ย ๆ

ในช่วงการจัดงานเกษตรประจำปีของจังหวัดพัทลุง วันนั้นเป็นวันที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนำนายกกาชาด (ก้อแม่บ้านของผู้ว่าฯนั่นแหละ) ไปเยี่ยมชมงาน โดยมีทั่นเกษตรจังหวัดนำชมบู้ทต่าง ๆ
เมื่อทั่นผู้ว่าพร้อมด้วยคุณนายเดินผ่านบู้ทการประกวดโค ทั่นผู้ว่าเหลือบไปเห็นรางวัลที่ติดที่ตัวโค
จำนวน 3 ตัว ซึ่งเป็นโคที่ได้รับรางวัลจากการประกวด อันดับ 1,2,3 ตามลำดับ จึงถามเกษตรจังหวัดว่า
ผู้ว่า "เจ้าโคตัวนี้มันมีดีที่ไหน จึงได้รับรางวัลที่ 3
เกษตรจังหวัด " ในวันหนึ่ง ๆ มันสามารถผสมพันธุ์ได้วันละ 3 ครั้ง ครับท่าน"
คุณนายผู้ว่าซึ่งยืนฟังอยู่ใกล้ ๆ ก้อรีบเดินเข้าไปชิดผู้ว่า แถมเอาไหล่เข้าไปกระแทกสีข้างแล้วก้อกล่าวว่า "เห็นมั๊ย ๆ "
แล้วผู้ว่าก้อเดินต่อไปที่โคตัวที่ได้รับรางวัลที่ 2 แล้วถามเกษตรจังหวัดต่อว่า
ผู้ว่า "แล้วตัวนี้หละทั่นเกษตรจังหวัด เจ้าโคตัวนี้มันมีดีที่ไหน จึงได้รับรางวัลที่ 2
เกษตรจังหวัดจึงตอบว่า " ในวันหนึ่ง ๆ มันสามารถผสมพันธุ์ได้วันละ 5 ครั้ง ครับท่าน"
คุณนายผู้ว่าซึ่งเดินตามมาติด ๆ จึงกล่าวแกมเหน็บแนมทั่นผู้ว่าอีกว่า "เห็นมั๊ย ๆ "
ผู้ ว่าแสนจะหงุดหงิด โดยเหน็บไปหลายดอกไม่ได้เอาคืนซะที ก้อไม่ทราบจะทำอย่างไร จึงกัดฟันเดินต่อไปยังเหลือตัวที่ได้รับรางวัลที่ 1 แล้วถามเกษตรจังหวัดว่า "ไอ้ตัวนี้หละ ทำไมได้รางวัลที่ 1"
เกษตรจังหวัด "มันผสมพันธุ์ได้วันละ 9 ครั้งครับท่าน มันจึงได้รางวัล เพราะมันแข็งแรงที่สุดครับ"
คุณนายได้ทีอีกครั้ง ใส่ผู้ว่าแบบสุด ๆ ว่า "เห็นมั๊ย ๆ "
ด้วยความสงสัยผู้ว่าจึงย้อนถามเกษตรจังหวัดว่า
"ไอ้ที่มันผสมพันธุ์ได้วันละ 3 ครั้ง 5 ครั้ง 9 ครั้ง เนี่ย มันเปลี่ยนแม่พันธุ์มั๊ย หรือใช้แม่พันธุ์ตัวเดียวตลอด"
เกษตร จังหวัดจึงตอบประสาซื่อว่า "อ๋อ.... มันต้องเปลี่ยนแม่พันธุ์ทุกครั้ง ก่อนที่มันจะผสมพันธุ์ครั้งต่อไปได้ครับทั่น อย่างตัวที่ได้รางวัลที่ 1 เนี่ยต้องใช้แม่พันธุ์ถึง 9 ตัว แถมตัวหลัง ๆ ต้องใช้แม่โคสาว ๆ นะครับ มันถึงสู้สุดฤทธิ์เลย"
ผู้ว่าได้ที จึงเอาไหล่ไปกระแทกคุณนายแล้วกล่าวว่า "เห็นมั๊ย ๆ มันต้องเปลี่ยน

Saturday, September 10, 2011

คุณมีสิทธิที่จะไม่พูด"


รื่อ งนี้เกิดขึ้นในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ลูกค้าชายร่างล่ำบึ้กที่พูดติด อ่างอย่างรุนแรงคนหนึ่ง ได้เดินไปที่เคาน์เตอร์ แล้วถามว่า : "ผะๆ- แหนกๆ-สิน-ค้าๆผู้ๆชายอยู่-ด้านๆไหนครับ?"
พนักงานที่เคาน์เตอร์จ้องมองเขาแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร
ลูกค้าคนนั้น ก็ถามซ้ำอีกหลายครั้งว่า : "ผะๆ- แหนกๆ-สิน-ค้าๆผู้ๆชายอยู่-ด้านๆไหนครับ?"
พนักงานคนนั้นก็ไม่ยอมตอบ จนท้ายที่สุด ลูกค้าคนนั้นก็โมโหเดือดปุดๆ และปึงปังเดินออกจากห้างไป
ลูกค้าที่ยืนเข้าคิวต่อจากชายคนนั้น ก็เอ่ยถามพนักงาน : "ทำไมถึงไม่ยอมตอบที่เขาถามล่ะ?"
พนักงาน : "คุๆๆ-คุณ-คิๆๆ-คิด-ว่า-ผะๆๆ-ผม-อยาก-จะ-หะ-หาเรื่อง-โดๆๆ-โดน-ชก-รึๆ-ไง?"

Friday, September 9, 2011

ผ้าห่มของปู่ ฮาๆๆๆอยากขึ้นสวรรค์


นายดำเป็นชายโสด
อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งห่างไกลความเจริญเป็นอย่างมาก

เมื่อคืนนายดำได้ฝันถึงปู่ของเขาที่เพิ่งเสียไปในฝันเห็นปู่แค่เพียงรางๆ
แต่ได้ยินเสียงชัดเจนมาก

ปู่ของเขามาบอกเขาว่าหนาวมากอยากได้ผ้าห่มสักผืนจะได้หายหนาว แล้วก็หายวับไป

วันรุ่งขึ้นนายดำได้คิดถึงความฝันรู้สึกสงสารปู่ของเขาอย่างมาก
เขาได้เตรียมผ้าห่มไว้ 1ผืน

 แต่เกิดปัญหาเสียก่อนปัญหาคือเขาลืมถามปู่ไปว่า

จะส่งผ้าห่มให้ปู่ได้อย่างไรปู่ถึงจะได้รับและได้หายหนาวเสียที

 คิดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วเขาก็นึกได้ว่าปู่ของเขาเป็นคนดีตอนนี้น่าจะอยู่บนสวรรค์

 คิดได้ดังนั้นเขาก็เข้าไปแต่งตัวและหยิบผ้าห่มออกจากบ้านเพื่อที่จะหาทางไปสวรรค์

 ตลอดทั้งวันเขาเจอใครที่เดินผ่านมา หรือเดินผ่านบ้านใครเขาก็จะถามถึงทางไปสวรรค์

 แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครให้คำตอบได้นายดำเดินมาตามทางอย่างคนสิ้นหวัง

นึกสงสารปู่จับใจที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้

 แล้วเขาก็ได้หยุดเดินทางมานั่งอยู่หน้ากระท่อมหลังหนึ่ง
แล้วถอนหายใจอย่างคนปลงตก

 แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงคุยกันดังออกมาจากในกระท่อมหลังนั้น

 พี่ทนไม่ไหวแล้ว พี่จะพาน้องไปสวรรค์แล้วน่ะ
เอาเลยจ๊ะพี่ น้องพร้อมแล้ว เราไปกันเลย

นายดำได้ยินดังนั้นจึงรีบวิ่งไปถีบประตูกระท่อมทันทีและเอ่ยขึ้นเสียงดังว่า
เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งไป ฉันฝากผ้าห่มไปให้ปู่ฉันด้วย 

 สองผัวเมียอ้าปากค้างในขณะที่นายดำได้บอกชื่อและนามสกุลปู่เสร็จสรรพ
และเอ่ย ขอบคุณก่อนออกมาจากกระท่อม และพูดกับตัวเองเบาๆว่า

มิน่าล่ะปู่กูถึงหนาวก็คนไปสวรรค์เขาแก้ผ้ากันไปทั้งนั้น

Thursday, September 8, 2011

เรื่องนั้นน่ะเอง

ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในบาร์ พร้อมกับกล่องคุกกี้ใบหนึ่งในมือซ้ายกับเป็ดอีกตัวหนึ่งในมือขวา เขาวางกล่องคุกกี้ลงบนเคาน์เตอร์แล้ววางเป็ดลงบนกล่องอีกที ทีนี้ก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น เพราะเป็ดเริ่มเต้นรำ
คนในบาร์เริ่มพากัน มามุงดูเป็ดเต้นรำได้ ไม่เคยมีใครเห็นเป็นทำอย่างนี้ได้มาก่อน มันเต้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยพร้อมกับร้องก้าบๆอยู่ตลอดเวลาราวกับจะ เป็นการเล่นคอนเสิร์ททั้งร้องทั้งเต้นอะไรประมาณนั้น
ชายเจ้าของบาร์เห็นคนสนใจเจ้าเป็ดตัวนี้มา เขาเริ่มมองเห็นโอกาสที่จะดึงลูกค้าไว้กับร้านของเขา เขาดึงชายเจ้าของเป็ดไปกระซิบ
“ผมขอซื้อเป็ดของคุณ ผมให้สามหมื่นบาทเลย จ่ายสด เดี๋ยวนี้เลย” เขาเสนอ
ชายเจ้าของเป็ดตกลงขายเป็ดของเขา เขารับเงินสดๆสามหมื่นแล้วเดินออกจากบาร์ทันที
“เดี๋ยวก่อน” ชายเจ้าของบาร์วิ่งกระหืดกระหอบตามมา “ผมจะทำไงให้มันหยุดเต้นล่ะนี่”
“อ๋อ เรื่องนั้นน่ะเอง” ชายเจ้าของเป็ดตอบ “คุณแค่เปิดกล่องคุกกี้ออกมาแล้วดับตะเกียงซะ แค่นั้นก็เรียบร้อย...”

Wednesday, September 7, 2011

การปฐมพยาบาล


“ไงสมศรี ทำไมวันนี้ถึงได้มาสายล่ะ” ผมถามลูกน้องที่ที่ทำงาน โห น่ากลัวมากเลยค่ะ” เธอเริ่มเล่าอย่างตื่นเต้น “หนูรอรถเมล์อยู่ดีๆ มีคนวิ่งราวสร้อยผู้หญิงคนนึงที่ยืนอยู่ข้างๆหนู สร้อยขาดบาดคอผู้หญิงคนนั้นเหวอะ เลือดไหลออกมาเต็มเลยค่ะ ยังดีนะคะนี่ อาทิตย์ที่แล้วหนูเพิ่งเข้าอบรมการปฐมพยาบาลมา เลยได้โอกาสใช้ความรู้คราวนี้แหละ”
“อ้อเหรอ แล้วคุณทำยังไงล่ะ” ผมถาม
“หนูก็นั่งลงกับพื้น แล้วก็ซุกหัวลงไประหว่างเข่า ก้มหัวให้ต่ำๆไว้ จะได้ไม่เป็นลมไงคะ”

Tuesday, September 6, 2011

พ่อ & ลูกคุยกัน

พ่อลูกยืนสนทนา ในเรื่องเซ็กซ์

ลูก - พ่อเวลามีเซ็กซ์ แล้วรู้สึกยังไง
พ่อ -เหมือนกับการ เอานิ้วไปแคะขี้มูกในจมูกแหละ

ลูก - ทำไม ผู้หญิงถึงร้องครวญคราง เหมือนมีความรู้สึกดีกว่าผู้ชายครับ
พ่อ - อ้าว.. แล้วเวลาเอ็งแคะขี้มูก เอ็งรู้สึกว่า นิ้วของเอ็งดีขึ้น หรือว่ารูจมูกของเอ็งดีขึ้น...

ลูก - ในเมื่อผู้หญิงรู้สึกดีขึ้น แล้วทำไมผู้หญิงถึงเกลียดการข่มขืนล่ะ
พ่อ - มันไม่เหมือนกันแล้วถ้าเอ็งเดินอยูบน ถนนแล้วมีคนวิ่งมาเอานิ้วมาทิ่มจมูกเอ็งนะ เอ็งจะชกเขามั้ย

ลูก -แล้วทำไมผู้หญิงถึงไม่ชอบมีเซ็กซ์ในระหว่างมีประจำเดือน
พ่อ - แล้วถ้าจมูกของเอ็งเลือดไหลอยู่ เอ็งจะแคะขี้มูกมั้ย..

ลูก - ทำไมผู้ชายถึงไม่ชอบใส่ถุงยางอนามัยขณะมีเซ็กซ์
พ่อ - แล้วถ้าพ่อบังคับเอ็งใส่ถุงมือแคะขี้มูกเอ็งจะรู้สึกยังไง

ลูก - มีอีกคำถามครับพ่อ ผู้หญิงทำไมชอบบรรยากาศเงียบ ๆขณะที่เธอมีเซ็กซ์
พ่อ - อ้าว..แล้วพ่อใช้ให้เอ็งแคะขี้มูก หน้าชั้นเรียนเอ็งจะทำได้มั้ย.. โธ่ลูกพ่อเอ๊ย......

ลูก - "พ่อครับ พ่อเก่งจังเลย"

Monday, September 5, 2011

ตำนานในการตั้งชื่อของเผ่าอินเดียนแดง

เด็กชายชาวเผ่าอาปาเช่ ท่าทางหงุดหงิดงุนงงสงสัย
เดินเข้าไปหาพ่อ The Big Eagle แล้วเอ่ยถาม
" พ่อ พวกเราชาวอินเดียนแดง ได้ชื่อกันมาอย่างไร ?"
Big Eagle ตอบว่า " ง่ายมากลูก เมื่อมีเด็กเกิดใหม่
เราเห็นอะไรเป็นสิ่งแรกเราก็จะตั้งชื่อของเด็กตามสิ่งนั้น
พ่อจะยกตัวอย่างให้ฟัง"
"เมื่อพี่ชายคนโตของเจ้าเกิด พ่อเปิดกระโจมออกมา
เห็นหมาป่าสีเทากำลังวิ่งตัดข้ามเนินเขา พ่อจึงตั้งชื่อ
เขาว่า " Running Wolf "
" เมื่อพี่สาวคนโตของเจ้าเกิด สิ่งแรกที่พ่อเห็นคือ เมฆ
ก้อนเล็กๆ ลอยล่องอยู่บนท้องฟ้า พ่อจึงตั้งชื่อเธอว่า
Drifting Cloud"
" และเมื่อพี่สาวคนที่สองของลูกเกิด พ่อมองเห็น
พระจันทร์เต็มดวงสว่างไสว ดังนั้นเธอจึงมีชื่อว่า
Silver Moon " ...................
ทีนี้เจ้าหายสงสัยรึยังละ ฟักกิ้ง ด๊อก

Friday, September 2, 2011

ขำ ๆ ในวันสุข ก่อนจะถึงวันหยุด

หนุ่มน้อยชาวเขาเผ่าหนึ่ง ซึ่งได้หมั้นหมายกับสาวน้อยแรกรุ่นต่างเผ่า
ด้วย ความคิดถึงทรวดทรงอันอวบอิ่ม สมวัยแรกสาวบานสะพรุ่งของคู่หมั้นหมาย....หนุ่มชาวเขาตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้น จะออกเดินทางไปเยี่ยมเยียนคู่หมั้นสาวให้หายคิดถึง
เย็นวันนั้นหนุ่มบอกกับแม่ของเขาว่า กางเกงในที่ใส่อยู่มันเก่ามากแล้ว ใส่มา 3 เดือนยังไม่เคยเปลี่ยนเลย แม่ช่วยไปซื้อผ้ามาตัดให้ใหม่ที
แม่ของหนุ่มรีบรุดออกไปตลาดซื้อผ้าใหม่มา 5 เมตร และ ตัดเย็บกางเกงในอย่างประณีตสุดฝีมือให้ไอ้หนุ่มของเรา โดยใช้ผ้าหมดไป 2 เมตร ยังเหลือเก็บไว้อีก 3 เมตร
รุ่ง เช้าหนุ่มชาวเขาของเราก็รีบใส่กางเกงในตัวใหม่เอี่ยมแล้วสวมผ้าเตี่ยว ทับ และออกเดินทางไปหาคู่หมั้นสาวทันทีมิรีรอ ระหว่างทางเกิดปวดท้องหนักกะทันหัน ต้องแวะป่าข้างทางเพื่อปลดทุกข์ ไอ้หนุ่มกลัวกางเกงในใหม่จะเปื้อนจึงถอดแขวนไว้กับกิ่งไม้
แต่ด้วยอารามรีบร้อนอยากพบหน้าคู่หมั้นสาว เมื่อเสร็จภารกิจก็รีบออกเดินทางในทันที
.....อนิจจา ไอ้หนุ่มของเราลืมใส่กางเกงในที่แขวนไว้กับกิ่งไม้ไปด้วย
เมื่อเดินทางไปถึงบ้านคู่หมั้นสาวในตอนเย็น ว่าที่พ่อตาได้จัดให้มีงานเลี้ยงต้อนรับที่บ้าน โดยทุกคนนั่งล้อมวงรับประทานอาหารเย็น
ไอ้หนุ่มของเราเลือกนั่งตรงข้ามกับคู่หมั้นสาวเพื่อจะโชว์กางเกงในตัวใหม่ ของเขาให้คู่หมั้นสาวดู
ไอ้หนุ่มพยายามนั่งกางขาอย่างเต็มที่เพื่อให้คู่หมั้นสาวได้เห็นกางเกงในตัว ใหม่ของเขาได้ชัดๆเต็มตา
เมื่อคู่หมั้นสาวได้เห็นสิ่งที่อยู่ข้างในผ้าเตี่ยว.....ก็เกิดอาการช็อคอ้า ปากค้าง.....
....ไอ้หนุ่มกระหยิ่มในใจคิดว่าคู่หมั้นสาวประทับใจในกางเกงในตัวใหม่ของเขา จึงลองถามออกไปว่า..

ชอบไหมจ๊ะที่รัก...ผมยังเหลืออีกตั้งสามเมตร เก็บไว้ที่บ้านนะ
คู่หมั้นสาวเป็นลมหงายหลัง ตึงในทันที.......

Monday, August 29, 2011

ณ ลานประหาร

ณ ลานประหาร........

นักศึกษาชายชาวอเมริกัน 3 คน เดินทางไปเที่ยวที่แม็กซิโก
ในคืนวันหนึ่งทั้ง 3 คน ดื่มเหล้าในบาร์หนักไปหน่อย
พอตอนเช้า ก็พบว่าทั้ง 3 คน ติดอยู่ในคุกและโดนตัดสินประหารชีวิตไปเรียบร้อย
แต่ทั้ง 3 คนไม่มีใครจำได้ว่าไปทำอะไรมาบ้างเนื่องจากเมาจัด
เลยเชื่อว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด

พอถึงวันประหารหลังจากที่นักศึกษาคนแรกถูกนำเข้าไปนั่งบนเก้าอี้ไฟฟ้า
เขาก็พูดสั่งเสียออกมาว่า
"ผมเป็นนักศึกษาจาก มหาวิทยาลัยแถบแกรนด์แคนยอน
ผมเชื่อในพลังของพระเจ้าและเชื่อว่าพระเจ้าจะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์"
พอสิ้นเสียงเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์เก้าอี้ไฟฟ้า ปรากฎว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่เลยเชื่อว่าพระเจ้าไม่ต้องการให้นักศึกษาคนนี้ตายจึงปล่อยตัวไป

เสร็จแล้วนักศึกษาคนที่ 2 ก็ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า
แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสับสวิทช์ไฟ นักศึกษาคนที่ 2 ก็กล่าวมาว่า
"ผมเป็นนักศึกษากฏหมายอยู่ที่ มหาวิทยาลัยอริโซน่า
ผมเชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์จะเข้าข้างผู้บริสุทธิ์เสมอ"
พูดจบเจ้าหน้าที่ก็สับสวิทช์ทันทีปรากฏว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่เชื่อว่ากฏหมายอันศักดิสิทธิ์ไม่ต้องการให้ชายผู้นี้ตายก็เลยยอมปล่อยตัวไป

หลังจากนั้นพอนักศึกษาคนที่ 3
ถูกนำมานั่งเก้าอี้ไฟฟ้าเขาก็กล่าวว่า
"ผมเป็นนักศึกษาวิศวะไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย(ขอสงวนสิทธิ์ไม่เอ่ยนามสถาบัน)
และผมจะขอบอกพวกคุณว่าถ้าพวกคุณไม่ต่อสายไฟ 2 เส้นที่ขาดอยู่นั้นเข้าด้วยกัน
ไอ้เก้าอี้ไฟฟ้าตัวนี้ก็จะไม่มีวันใช้การได้"
หลังจากนั้นอีก 5 นาที วิญญานของนักศึกษาคนที่ 3 ก็ไปสู่สุขคติ


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา
แต่สุดท้าย...รู้รักษาตัวรอดน่าจะเป็นยอดดีกว่า มั้ง

Saturday, August 27, 2011

ใครๆเขาก็รู้กันทั้งตึก

บุญสนิทเป็นโฟร์แมนบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง เขาแต่งงานกับสายขจรเสมียนสาวในบริษัทเดียวกัน แต่เนื่อง
จากรายได้ของทั้งคู่ไม่ค่อยสูงมากนักประกอบกับบุญสนิทเป็นคนชอบ กินเหล้าและเที่ยวเตร่ เงินทองจึงไม่มี
พอที่จะหาซื้อบ้านอยู่อาศัยได้ อีกประการหนึ่งเนื่องจากไซต์งานก่อสร้างไม่ค่อยเป็นหลักแหล่งด้ วย พวกเขา
ทั้งสองจึงได้เลือกเช่าอพาร์ทเมนท์ที่ใกล้ไซต์งานเพื่ออยู่อาศั ย
คืนวันหนึ่ง บุญสนิทเดินโซซัดโซเซขึ้นมาบนห้อง สายขจรสังเกตเห็นหน้าตาเขามีรอยฟกช้ำดำเขียว
สายขจร : ไปทำอะไรมาถึงหน้าตาบอบช้ำอย่างนี้ ?
บุญสนิท : ชกกับผู้จัดการอพาร์ทเมนท์นะซี
สายขจร : อ้าว แล้วไปชกกับเขาทำไม ?
บุญสนิท : ก็มันขี้คุย
สายขจร : เขาคุยว่าอะไร ?
บุญสนิท : ก็มันคุยว่ามันมีเซ็กส์กับผู้หญิงทุกคนในอพาร์ทเมนท์นี้ ยกเว้นคนเดียว ผมถามมันว่าผู้หญิงคนเดียวที่ว่านั้นเป็นใคร ถามอย่างไรมันก็ไม่ยอมบอกแล้วมันยังทำท่าทีกวนโอ๊ยเสียด้วย ผมทนไม่ได้ก็เลยชกมันเข้าให้ มันชกผมคืนบ้างก็พอดีมีคนมาห้าม
สายขจร : โธ่เอ๊ย... เรื่องแค่นี้เองหรอกหรือ ? ไม่น่าต้องชกกันเลย ใครๆเขาก็รู้กันทั้งตึกแหละว่าผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นยายสมศรีปากจัดที่อยู่ ชั้นสามแน่เลย

Friday, August 26, 2011

ห้ามรบกวน

ห้ามรบกวน
       คณะทัวร์กลุ่มหนึ่งนั่งรอ หนุ่มบ้านนอกเพื่อนร่วมคณะที่จนแล้วจนรอดก็ไม่โผล่มาสักที ทั้งๆที่เลยเวลา

 นัดมา 30 นาทีแล้ว ด้วยความสงสัย ไกด์สาวจึงโทร.ถามขึ้นไปตามที่ห้องพัก...

" คุณจะไปหรือเปล่า เรานั่งรอกันมาครึ่งชั่วโมงแล้วนะ "

ไกด์สาวกรอกเสียงไปอย่างฉุนๆ

" โอย..ดีใจจังเลยที่คุณโทร.มา ช่วยผมหน่อยเหอะ ผมออกจากห้องไม่ได้ "

หนุ่มบ้านนอกวิงวอน

" เกิดอะไรขึ้นคะ " ไกด์สาวตกใจ

" ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ในห้องนี้มีประตูอยู่ 3 บาน

บานหนึ่งเป็นประตูห้องน้ำ

บานหนึ่งเป็นประตูตู้เสื้อผ้า

ส่วนอีกบานผมไม่รู้ว่าเป็นอะไร

แต่ผมไม่กล้าเปิด เพราะมีป้ายแขวนไว้ว่า

...ห้ามรบกวน "

Thursday, August 25, 2011

โดนหลอกแล้ว

พลตำรวจนายหนึ่งพยายามหยุดรถ
ซึ่งทะยานมาด้วยความเร็วสูงบวกกับความเมาของคนขับ
เมื่อหยุดรถได้ก็ยิงคำถามไปยังคนขับทันที
"คุณขับรถเร็วเกินความเร็วที่กำหนด
ขอให้แสดงใบขับขี่ด้วย"
คนขับที่เมามาเต็มคราบก็สวนไปว่า
"ใบขับขี่ไม่มีมีแต่ปืนอยู่ในกล่องนั่นล่ะ"
ตำรวจนายนั้นอึ้งไปพักหนึ่ง "คุณมีปืนหรือ"
คนขับตอบว่า"ใช่และเพิ่งจะยิงคนตายไปหนึ่ง
ศพอยู่ในกระโปรงด้านหลังนั่นแหละ"

พอตำรวจได้ยินว่ามีศพอยู่ที่กระโปรงรถ
ก็เลยรีบเรียกกำลังมาสบทบรวมทั้งผู้หมวดเจ้านายเขาด้วย
เมื่อผู้หมวดมาถึงก็ขอดูใบขับขี่ ซึ่งชายขี้เมาก็หยิบใบขับขี่ให้
เมื่อผู้หมวดถามว่าเขามีปืนอยู่ในกล่องจริง หรือไม่
เขาตอบว่าไม่จริงพร้อมกับเปิดกล่องให้ดู
ก็ไม่พบปืน เมื่อผู้หมวดถามว่ามีศพอยู่ในกระโปรงรถจริงหรือ เขาบอกว่าไม่มี
พร้อมกับเปิดกระโปรงรถให้ดู ก็ปรากฎว่าไม่มีศพ
ผู้หมวดเลยกล่าวว่า "ทางเราได้รับแจ้งมาว่าคุณพกปืน
และฆ่าคนตายโดยซ่อนศพไว้ที่กระโปรงรถ ตกลงมันเป็นยังไง"
คนขับตอบทันทีว่า " จะยังไงล่ะครับ ผู้หมวดก็โดนลูกน้องหลอกน่ะสิ
นี่ไอ้ลูกน้องสารเลวของผู้หมวดคงจะหลอกผู้หมวดว่าผมขับรถเร็วด้วยล่ะสิ"

Wednesday, August 24, 2011

กำลังใครแรงกว่า


บุญเด็ด อดีตนายธนาคารใหญ่หลังเกษียณอายุแล้ววันๆ จะใช้เวลาไปงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อฆ่าเวลา
วันหนึ่ง เขาขับรถเมอร์ซิเดส เบนซ์ 500 CDI ป้ายแดงซึ่งเขาเพิ่งถอยออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เพื่อไปดูงานแสดงนาฬิกา อัญมณีและเครื่องประดับ แต่เนื่องจากรถที่มางานมีจำนวนมากทำให้เขาหาที่จอดรถไม่ได้

แม้จะต้องขับวนอยู่หลายรอบแล้วก็ตาม จนกระทั่งเขาเห็นผู้หญิงคนหนึ่งหอบของพะรุงพะรังเดินไปที่รถของเธอ 

เขาขับรถเข้าไปรอโดยเปิดไฟกะพริบค้างไว้อย่างใจเย็น ครู่ใหญ่ๆหลังจากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ขับรถออกไป 

ไม่ทันที่บุญเด็ดจะขับรถเมอร์ซีเดสเข้าจอดแทนปรากฏว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถโตโยต้าแคมรีป้ายแดงเข้าไปเสียบเสียก่อน 

บุญเด็ดตะลึงไปชั่วครู่แล้วเขาก็โกรธจนตัวสั่น เขาลงจากรถแล้วเดินตรงไปหาชายหนุ่มทันที

บุญเด็ด : คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร ? คุณไม่เห็นหรือว่าผมเปิดไฟกะพริบค้างไว้เพื่อแสดงว่าผมกำลังรอจอดรถในช่องนี้อยู่

ชายหนุ่ม : ผมไม่สน คนหนุ่มอย่างผมมีกำลังและว่องไวมากกว่าก็ต้องได้เป็นธรรมดา

หลังจากชายหนุ่มพูดเสร็จเขาก็ลงจากรถ ล็อกประตูอย่างไม่แยแสแล้วรีบเดินเข้างานแสดงสินค้า 

แต่เมื่อเขาคล้อยไปได้เพียงประมาณ 20 เมตรเท่านั้น เขาก็ได้ยินเสียง โครม ! ดังสนั่นหวั่นไหว 

เขาหันมองตามเสียงนั้นไป แล้วเขาต้องสะดุ้งตกใจ 

เพราะภาพที่เขาเห็นเป็นรถเมอร์ซีเดสป้ายแดงคันหนึ่งชนเข้ากับรถโตโยต้าแคมรีของเขา 

สภาพรถพังยับเยินทั้งคู่ เขาจึงหันหลังกลับแล้วรีบไปที่รถของเขาทันที 

ภาพที่เขามองเห็นคือบุญเด็ดยืนยิ้มอยู่ตรงที่เกิดเหตุ เขาตรงรี่เข้าไปหา

ชายหนุ่ม : คุณทำอย่างนี้ได้อย่างไร ? รถผมพังเสียหายหมดแล้ว

บุญเด็ด : ผมไม่สน คนแก่อย่างผมมีกำลังเงินมากกว่าก็ต้องเลือกทำอย่างนี้เป็นธรรมดา

Tuesday, August 23, 2011

เรื่องธรรมดา

มีเด็กหญิงคนหนึ่ง มาทำงานที่โรงงานทำแปลงถูพืนกับแม่ตั้งแต่เด็ก โดยแม่ของเด็กคนนั้นไม่ได้ส่งให้เล่าเรียนศึกษาเลย ได้แต่ให้ทำงานในโรงงานแปลงถูพื้น และในโรงงานนั้นก็มีลูกของเฒ่าแกเจ้าของโรงงานเป็นเด็กผู้ชายรุ้นเดียวกับ เด็กผู้หญิงเป็นเพื่อนเล่นกัน
เหตุการณ์ผ่านเลยไปเด็กหญิงโตเป็นสาว เด็กชายก็เป็นหนุ่มและได้เป็นเจ้าของโรงงานแทนเฒ่าแก่
ด้วย ความไม่ปะสีปะสาของสาวน้อยที่มิได้เรียนมา วันหนึ่งเกิดปวดท้อง ก็ไปที่ห้องน้ำทำธุระส่วนตัว เมื่อเสร็จกิจแล้วกำลังล้างของตัวเองก็บังเอิญพบสิ่งผิดปกติของตัวเอง เดิมทีเมื่อก่อนไม่มีเดี๋ยวนี้ทำมัยถึงมีได้ จะต้องเป็นเหตุมาจากการทำงานที่โรงงานทำแปลงแน่นอนเพราะมีขนแปลงมาติดแล้ว ดึงไม่ออกแบบนี้ขอลาออกดีกว่า
ด้วยความที่ทนไม่ได้จึงเข้าไปพบลูกเจ้า ของโรงงานเพื่อลาออกก็บอกเหตูผลที่ลาออกให้ลูกผู้จัดการฟังว่ามีขนแปลงมาติด ที่ที่เฉพาะดึงไม่ออก
ลูกผู้จัดการได้ฟังดังนั้นก็บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาผมอยู่มาก่อนรู้ดีผมมีมากกว่าคุณอีก......ผมมีทั้งขนทั้งด้ามด้วย.....

Saturday, August 20, 2011

เสียงของอะไรอะ

มีชายหนุ่มคนหนึ่งขับรถคันงามราคาหลายล้านท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ

จนกระทั่งรถเกิดเสียกระทันหัน ทันใดนั้นเองฝนก็เริ่มตก เกิดพายุอย่างรุนแรง
เขาจึงตัดสินใจออกจากรถเพื่อหาคนมาช่วย และแล้วเขาก็ไปเห็นวัดๆหนึ่งตั้งอยู่กลางภูเขา
ถ้าเป็นใครเห็นแบบนี้ก็คงจะไปโบกรถขอความช่วยเหลือ
แต่ชายหนุ่มผู้นี้กลับพยายามปีนขึ้นไปบนภูเขาแห่งนี้
ด้วยความพยายามอย่างไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค

จึงทำให้เขาขึ้นมาถึงวัด เขาก็ได้พบกับท่านเจ้าอาวาสแห่งวัดนี้
แล้วขออนุญาตพักแรมที่วัดนี้ 1 คืน
ท่านเจ้าอาวาสก็สั่งให้เณรไปจัดห้องให้ชายหนุ่มได้พัก เมื่อชายหนุ่มหลับไป
ก็เกิดเสียงประหลาดอย่างหนึ่งขึ้นตอนตี 3 กึก กึก กึกโครม
ชายหนุ่มเกิดสะดุ้งตื่นขึ้นมาและได้ยินเสียงนี้เป็นเวลา 10 นาที
เมื่อเสียงนี้เงียบไปแล้วจึงลุกออกจากเตียงและรีบวิ่งไปหาเจ้าอาวาส

ชายหนุ่ม: หลวงพ่อได้ยินเสียงเมื่อตะกี้ไหมครับ มันดังและน่ากลัวมากเลยครับ เจ้าอาวาส: อาตมาได้ยินแล้วโยม  

ชายหนุ่ม: มันเป็นเสียงของอะไรครับ  
เจ้าอาวาส: อาตมาบอกโยมไม่ได้หรอก เพราะโยมไม่ใช่พระ

ชายหนุ่มเมื่อได้ยินหลวงพ่อบอกอย่างนี้จึงไม่ถามต่อ แล้วเก็บมาคิดว่าเป็นเสียงของอะไรกันแน่
จนกระทั่งผ่านพ้นคืนนั้นไป ชายหนุ่มก็โทรไปแจ้งประกันและยกรถกลับไปที่กรุงเทพฯ
2 ปีต่อมา ชายหนุ่มคนนี้ก็ขับรถแล้วประสบอุบัติเหตุแบบเดิมอีก
เขานึกขึ้นได้ทันทีว่าเขาเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง

ฝนก็ตกลงมาหนักกว่าคราวก่อน ฟ้าก็ร้อง ครืน ครืน พายุก็ซัดกระหน่ำ
เขาจึงตัดสินใจไปหลบพายุนี้ที่วัดนั้นอีก และได้เจอเจ้าอาวาส
ช่างเป็นเป็นบุญวาสนาเหลือเกิน
ที่ทำให้อาตมากับโยมมาพบกันอีก
ส่วนชายหนุ่มก็ได้แต่คิดว่า
เป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยรึไงวะ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นแบบนี้ได้
และแล้วชายหนุ่มก็ได้พักในห้องเดิมที่เคยพักมาเมื่อ 2 ปีที่แล้วนี้เอง
ชายหนุ่มรู้สึกฉงนใจเป็นอย่างมาก จนเผลอหลับไป ทันใดนั้นเองตอนตี 3
ก็เกิดเสียงนั้นขึ้นมาอีก กึก กึก กึกโครม
ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นรีบลุกขึ้นแล้วออกไปหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดเสียงนี้

วิ่งไปจนรอบกุฏิแล้วก็ยังหาไม่เจอ จนเสียงนี้เงียบไป เขาจึงเข้าไปถามเจ้าอาวาส
ชายหนุ่ม: นี่มันเสียงอะไรกันแน่ครับหลวงพ่อ

เจ้าอาวาส: อาตมาไม่สามารถบอกโยมได้หรอกว่ามันเป็นเสียงอะไร

ชายหนุ่ม: ทำไมล่ะครับหลวงพ่อ

เจ้าอาวาส: นั้นก็เพราะโยมไม่ใช่พระ

ชายหนุ่ม: แล้ววิธีไหนบ้างที่ทำให้ผมได้เป็นพระล่ะครับหลวงพ่อ

เจ้าอาวาส: โยมต้องออกบวชและจำวัดในวัดแห่งนี้ โยมจะออกบวชอย่างงั้นหรือ?

ชายหนุ่มเก็บข้อสงสัยนี้มานานแล้วจึงตัดสินใจออกบวชเพื่อจะได้รู้ว่าเป็นเสียงของอะไร

แต่ในทางกลับกันชายหนุ่มเกิดซึ้งในรสพระธรรมจนลืมข้อสงสัยที่ตั้งไว้

และอุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนา เวลาผ่านไป 40 ปี
ขณะที่พระ(ชายหนุ่ม)กำลังจำวัดอยู่นั้น ตอนตี3 ก็เกิดเสียงนั้นอีก
กึก กึก กึก..โครมพระ(ชายหนุ่ม)เกิดมีสติจำความได้ว่าต้องการรู้คำตอบของเสียงนี้

พระรูปนี้จึงตรงไปหาเจ้าอาวาส ที่บัดนี้ได้ชราภาพแล้ว พระหนุ่มจึงถามเจ้าอาวาส

พระหนุ่ม: ในตอนนี้ผมได้เป็นพระสงฆ์หรือพุทธสาวกประจำพุทธศาสนาของเราแล้ว

ผมเองก็สงสัยมาตลอดจึง
ขอให้ท่านได้โปรดบอกผมทีว่านี่เป็นเสียงอะไร

และท่านเจ้าอาวาสก็พาพระองค์นี้ไปดูว่าเป็นเสียงอะไร
และในที่สุดหลังจากพระหนุ่มได้แสวงหาคำตอบนี้มานาน
ก็รู้แล้วว่าเป็นเสียงของอะไร อยากรู้มั้ยล่ะว่าเป็นเสียงของอะไร 

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
..








แต่เสียดายนะผมเองก็คงจะบอกคุณไม่ได้หรอกนะ
เพราะคุณไม่ใช่พระ 

Friday, August 19, 2011

เรือประมง


บุญธำรงเป็นต้นหนของเรือประมงลำหนึ่งที่เดินทางไปจับปลาในกลางท ะเลลึก บังเอิญเรือถูกพายุไต้ฝุ่นจน
อับปาง เขาเกาะกระดานได้แผ่นหนึ่งจึงพอพะยุงตัวและว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง ปรากฏว่าที่นั่นเป็นเกาะร้างไร้ผู้
คนอยู่อาศัย แต่โชคดีที่เกาะนี้อุดมด้วยผลหมากรากไม้และมีแหล่งน้ำจืดอย่างพ อเพียง เขาสามารถดำรง
ชีพอยู่ได้โดยไม่อัตคัดเท่าไรนัก ห้าปีผ่านไป จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาเห็นคนๆหนึ่งพายเรือมาที่หาดเขาจึง
วิ่งไปดู ผู้ที่มากับเรือลำนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาค่อนข้างดีรูปร่างเพรีย วสมส่วนดูทะมัดทะแมงและเซ็กซี่

หญิงสาว : สวัสดีค่ะ คุณคือ... คุณบุญธำรงใช่ไหมคะ ?
บุญธำรง : ใช่ คุณรู้จักผมด้วยหรือ ?

หญิงสาว : ค่ะ ฉันเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย เราได้รับแจ้งเหตุว่ามีเรือประมงอับปางแล้วคุณได้หายไป พวก
เราค้นหาคุณมานานมากแล้ว เออ...ว่าแต่ว่า...คุณไม่ได้สูบบุหรี่มานานเท่าไรแล้วคะ ? เอ้า นี่กรองทิพย์
ฉันเอามาฝาก สูบซะให้หายอยาก

บุญธำรง : ขอบคุณมาก ผมไม่ได้สูบบุหรี่มา 5 ปีแล้ว แต่....อืม์ คุณรู้ได้อย่างไรว่าผมสูบกรองทิพย์ ?

หญิงสาว : อ๋อ เราดูจากแฟ้มประวัติของคุณค่ะ เราหน่วยกู้ภัยยินดีบริการอย่างประทับใจ แล้วนี่คุณดื่ม
เหล้าครั้งสุดท้ายมานานเท่าไรแล้วคะ ? ฉันมีแม่โขงเหล้าที่คุณชอบมาฝากคุณด้วย เอ้าดื่มซะ อย่าดื่มที
เดียวหมดนะคะ แบ่งให้ฉันดื่มเป็นเพื่อนบ้างก็ได้

บุญธำรง : ยินดีครับ เรามาดื่มด้วยกัน ผมต้องขอบคุณมากเลยเพราะ 5 ปีมานี่ผมเพิ่งจะได้ดื่มเหล้าวันนี้

หญิงสาว : ยินดีอย่างยิ่งค่ะ มันเป็นบริการของเราที่ต้องการทำให้คุณประทับใจ เออ...ขอถามอีกเรื่องอย่า
หาว่าละลาบละล้วงนะคะ คือว่า....คุณ..คุณ อืม์..คุณเล่น..เล่น...อืม์ ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่คะ ?

บุญธำรง : เฮ้ย ! อย่าบอกนะครับว่า คุณหอบถุงกอล์ฟมาที่เกาะแห่งนี้ให้ผมด้วย

Wednesday, August 10, 2011

เศรษฐีขี้งก

มีมหาเศรษฐีอยู่คนหนึ่ง มีเงินมากมาย แต่งกมาก อยู่มาวันหนึ่งนึกเซ็งๆ ไม่รู้จะทำอะไรให้มันสนุก ก็หาเกมส์มาให้เล่นกันว่า ถ้าใครสามารถทำให้ม้าหัวเราะได้ เราจะให้เงิน 1000 ตำลึง หากม้าไม่หัวเราะจะต้องเสียทอง 20 ตำลึงให้แก่เศรษฐี ก็มีผู้คนมาสมัครมากมาย แต่ก็ต้องเสียเงิน 20 ตำลึงให้แก่เศรษฐี ทำให้เศรษฐีร่ำรวยขึ้นอีก

อยู่มาวันหนึ่ง มีเงาะป่ามารับคำท้าเศรษฐี เงาะป่าเพียงแต่ไปกระซิบที่ข้างหูม้า ม้าก็หัวเราะร้อง ฮี้ ๆๆๆ ผู้คนที่มาดูต่างตบมือในความสามารถ และก็สงสัยว่าม้าทำไมจึงหัวเราะ ฝ่ายเศรษฐีก็เหงื่อตกที่ต้องสูญเสียเงิน 1000 ตำลึงให้แก่เจ้าเงาะป่าไป จึงออกอุบายไปว่า "เจ้าเงาะป่า ถ้าเจ้าสามารถทำให้ม้าร้องให้ได้ ข้าจะให้เงินเจ้าอีก 1000 ตำลึง หากเจ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องคืนเงิน 1000 ตำลึงให้แก่ข้า" เงาะป่าก็รับคำท้า แค่เดินไปใกล้ๆ ม้า สักครู่เดียว ม้าตัวนั้นก็ร้องไห้ออกมา

เศรษฐีเห็นดังนั้นก็แทบเป็นลม จำเป็นต้องจ่ายเงินอีก 1000 ตำลึงให้แก่เจ้าเงาะป่า แล้วถามว่าเจ้าทำยังไง จึงสามารถทำให้ม้าหัวเราะและร้องไห้ได้ เงาะป่ารู้ว่าเศรษฐีเป็นคนงก ก็อยากจะดัดนิสัย ก็บอกว่าถ้าจะให้เฉลยต้องจ่ายมาอีก 100 ตำลึง ไม่งั้นไม่เฉลย เศรษฐีก็ยอมจ่าย เงาะป่าก็บอกว่า ทำให้ม้าหัวเราะ ก็แค่บอกว่า "ของข้าใหญ่กว่าของเจ้" ม้าได้ฟังก็หัวเราะ เพราะนึกว่าของมันเองใหญ่กว่าใครอยู่แล้ว เศรษฐีก็ถามว่า แล้วม้าร้องไห้ล่ะ เงาะป่าก็ตอบว่า "ข้าก็เปิดให้เจ้าม้านั่นดูเท่านั้นเอง"

Wednesday, August 3, 2011

กินแล้วฉลาด

มีแม่ค้าขายปลาคนหนึ่งร้องเรียกให้คนมาซื้อปลา "เร่เข้ามา..จ้า..ปลาร้านนี้กินแล้วฉลาดจริงๆ จ้า..3ตัว100จ้า.."

ผู้หญิงคนหนึ่งจึงถามแม่ค้าว่า "กินแล้วฉลาดจริงหรอ" ลองซื้อไปลองกินดูก่อนก็ได้นะจ๊ะ แม่ค้าตอบ
ผู้หญิงคนนั้นจึงซื้อปลาไป2ตัว วันรุ่งขึ้นก็กลับมาซื้อเหมือนอย่างเคยผ่าน

ไปวันที่5 ผู้หญิงคนนั้นเองก็จะมาซื้อปลาร้านเดิม
ขณะที่เดินอยู่จึงได้ยินแม่ค้าปลาอีกร้านหนึ่งร้องเรียกลูกค้าว่า "ปลาจ่ะปลาตัวละ10บาทจ้า..."

ผู้หญิงคนนั้นจึงสงสัยว่าปลาเหมือนกันทุกอย่างแต่ทำไมแค่ตัวละ10บาท จึงกลับไปถามแม่ค้าเจ้าประจำที่ซื้อว่า

"ไหนว่าปลาร้านนี้กินแล้วฉลาดยังไม่เห็นว่าจะฉลาดเลย ร้านที่เดินผ่านมาขายถูกกว่าตั้งเยอะ"

แม่ค้าจึงตอบว่า "นั่นแหละค่ะคุณเริ่มจะฉลาดขึ้นมาแล้ว"

Wednesday, July 27, 2011

ขำๆ ฮาๆ ปลุกเองซิ

ครูสายสมรหงุดหงิดอย่างแรง เมื่อเหลือบไปเห็น 

เด็กนักเรียนคนหนึ่งที่อยู่แถวหลังสุด แอบนั่งสัปหงก 


ไม่สนใจบทเรียนที่เธอกำลังบรรยาย ครูสายสมรจึงตะโกนบอก


เพื่อนนักเรียนที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่า
"นี่เธอ...ปลุกหมอนั่นให้ตื่นขึ้นเดี๋ยวนี้" 

ได้ยินดังนั้น เด็กชายที่นั่งข้าง ๆ จึงตะโกนตอบกลับว่า

"ครูเป็นคนทำให้เขาหลับ ครูก็ปลุกเขาเองซิครับ"
 

Friday, July 22, 2011

เรื่องตลก ขำขัน คลายเครียด ไม่สบาย

เด็กน้อยคนหนึ่งพึ่งโตเป็นสาว และ ก็เริ่มมีรอบเดือน 

แม่ของเธอจึงสอนเกี่ยวกับการใช้ผ้าอนามัย 


วันหนึ่ง.... 


"แม่!!!!!!" สาวน้อยตะโกนเรียกแม่ของเธอกลางดึก 


"เป็นอะไรลูก" แม่ถาม 


"แม่พาหนูไปหาหมอหน่อยสงสัยหนูจะไม่สบาย" เด็กน้อยตอบ 


เมื่อไปถึงโรงพยาบาล เด็กน้อยก็บอกอาการกับหมออย่างกลัวๆ ว่า 


"หมอคะ หนูไม่สบายแน่ๆ เลยรอบเดือนของหนูเป็นสีแดง" 


"ก็เป็นปกตินี่จ๊ะ" หมอยิ้มๆ 


"ไม่ปกติแน่ค่ะหมอ ก็หนูเห็นในโฆษณา มันเป็นสีฟ้านี่นา.." 


หมอ "..........."
   

Monday, July 18, 2011

ขำๆ ฮาๆ คำเตือนข้างฉลาก

1. ข้างกล่องยาจุดกันยุงแบบขดยี่ห้อนึงเขียนไว้ว่า วัตถุมีพิษ ห้ามรับประทาน
(ใครอยากฆ่าตัวตายด้วยการกินยากันยุงแบบขดก็ตามใจมันเถอะ)

2. บนถุงขนมขบเคี้ยวยี่ห้อนึง คุณมีสิทธิ์ได้รับรางวัลโดยไม่จำเป็นต้องซื้อโปรดอ่านรายละเอียดในซอง 

(ไอ้บ้า)

3. แปะอยู่บนสบู่ยี่ห้อดัง วิธีใช้ : เหมือนสบู่ทั่วไป 

(ขอบใจนะ)

4. บนกล่องอาหารแช่แข็ง โปรดอุ่นก่อนรับประทาน 

(ถ้าคนเปิดมันโง่นัก ก็ให้มันแ-กเข้าไปเถอะ)

5. บนที่เป่าผมยี่ห้อนึงเขียนว่า ห้ามใช้ขณะหลับ 

....(จะบ้าตาย)

6. พิมพ์อยู่ด้านใต้ของกล่องเค้กที่ขายในห้างดัง คำเตือน : ห้ามคว่ำกล่อง 

????????

7. บนกล่องซาลาเปาในร้านสะดวกซื้อ คำเตือน : อาหารจะร้อนเมื่อนำเข้าไมโครเวฟ 

(มันคงเย็นหรอกน๊ะ)

8. บนกล่องเตารีด ห้ามใช้รีดผ้าขณะที่สวมใส่

9. บนกล่องยาแก้หวัดเด็ก ห้ามขับรถ หรือคุมเครื่องจักรขณะรับประทานยานี้ 

(เหวอไปเลยค่ะ)

10. บนกล่องยานอนหลับ คำเตือน : อาจทำให้ง่วงเมื่อใช้ยานี้
(ทำไมต้องบอกกกกกก...ที่กินก็เพราะกูอยากง่วงแหละ)

11. บนกล่องไฟประดับฉลองปีใหม่ ใช้สำหรับภายในหรือภายนอกอาคาร
(ไม่บอกไม่รู้น๊ะเนี่ย)

12. บนกล่องถั่วกระป๋องยี่ห้อดัง วิธีใช้ : เปิดกระป๋องแล้วรับประทานถั่ว
(ขอบคุณที่บอก)

13. บนชุดซุปเปอร์แมนของเด็ก คำเตือน : คนสวมใส่เสื้อผ้านี้ไม่สามารถทำให้บินได้ 

(อีเปรต) 

Tuesday, July 12, 2011

รถเมล์ชั้น 2

คุณสิงหาได้รับโบนัสพิเศษจากบริษัทให้ไปดูงานที่ลอนดอน 1 เดือน แต่คุณศรีสมรเป็นห่วงสามี กลัวจะทำอะไรเปิ่นหรือพลาดพลั้งทำอะไรที่เป็นอันตรายแก่ตัวเอง หล่อนจึงเตือนสามีไปว่า

ศรีสมร : คุณพี่จำไว้นะว่าอย่าไปนั่งรถเมล์ที่ลอนดอนอย่างเด็ดขาด

สิงหา : ทำไมล่ะ ถ้าแท็กซี่ไม่มีก็ต้องนั่งรถเมล์อยู่ดี

ศรีสมร : งั้นถ้าเลี่ยงไม่ได้ก็อย่าไปนั่งรถเมล์บนชั้น 2 ก็แล้วกัน

สิงหา : ทำไมถึงนั่งไม่ได้ล่ะคุณ

ศรีสมร : ก็บนชั้น 2 มันไม่มีคนขับน่ะสิ !?!?

Monday, July 11, 2011

ทำไมหมอทำแบบนี้

มีผู้ชายคนหนึ่งชื่อ สมมติเขาตื่นเช้ามาเข้าห้องน้ำแล้วสังเกตว่า ลูกอัณฑะของเขาเป็นสีน้ำเงินเขาจึงไปหาหมอ หมอก็บอกว่ามันเป็นโรคชนิดหนึ่ง ถ้าไม่รีบตัดทิ้ง มันจะลาม

สมมติก็บอกว่าครับๆๆ ได้ครับ หมอก็ตัดออก

สมมติกลับบ้าน นอนตื่นเช้ามา เข้าห้องน้ำมองกระจก แล้วสังเกตว่าลูกอัณฑะอีกข้างหนึ่งกลายเป็นสีน้ำเงิน

เขาจึงไปหาหมออีก หมอก็บอกว่ามันลาม ต้องรีบตัดมันทิ้งก่อนที่มันจะลามอีก

สมมติก็บอกว่าครับๆๆ ได้ครับ หมอก็ตัดออก

สมมติกลับบ้านนอนตื่นเช้ามามองกระจกแล้วสังเกตว่า อวัยวะเพศชายที่เหลือกลายเป็นสีน้ำเงิน

สมมติจึงไปหาหมออีก หมอก็บอกว่ามันลาม ต้องรีบตัดทิ้ง

สมมติก็ถามหมอว่าแล้วผมจะฉี่ยังไงละ หมอก็บอกว่าไม่เป็นไร หมอจะต่อท่อพลาสติกให้

สมมติก็บอกว่าครับๆๆ ได้ครับ หมอก็ตัดออกแล้วต่อท่อพลาสติกให้แล้ว

สมมติก็กลับบ้านนอนตื่นเช้ามามองกระจกแล้วสังเกตอีกว่าท่อพลาสติกที่หมอให้กลายเป็นสีน้ำเงิน

สมมติงงมากจึงกลับไปหาหมออีก หมอตกใจอย่างหนัก
หมอเช็คอย่างละเอียด
แล้วก็รู้ผลที่แท้จริง
แล้วหมอก็บอก สมมติว่า

ต้องเสียใจด้วยนะ

กางเกงในคุณสีตก !!!

Thursday, July 7, 2011

หื้อๆ... มันขู่หนู

เช้าวันหนึ่งพ่อเห็นลูกสาวนั่งร้องไห้ ก็เกิดความสงสัยจึงถามว่า

พ่อ   :  เป็นอะไรไปลูก นั่งร้องไห้แต่เช้าเชียว

ลูกสาว:  (สะอื้น) เมื่อคืนค่ะพ่อ ใครก็ไม่รู้ ปีนหน้าต่างเข้ามาปล้ำหนูค่ะ

พ่อ:  (โกรธ) มันเป็นใครมันทำอะไรหนูบ้าง แล้วทำไมหนูไม่ร้องเรียกพ่อ

ลูกสาว:  หนูไม่กล้าร้องเรียกค่ะ มันขู่หนู

พ่อ:  มันขู่ว่าไงลูก

ลูกสาว:  มันขู่ว่า ถ้าหนูร้องคราวหลังจะไม่มาอีกค่ะ

พ่อ: ?

Saturday, July 2, 2011

ขำขัน ขอมาสายสิบห้านาที

ชัชชัยเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งจะเข้าทำงานในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งมีแต่พวกบ้ากอล์ฟพอใกล้วันหยุดทีไรเป็นต้องชวนไปออกรอบทุกที

"ไปออกรอบกันนะ เสาร์นี้ สิบโมงเช้าเจอกัน" ศราวุธเอ่ยชวน

"สิบโมงหรือครับ ได้ครับ แต่ผมอาจจะไปสายซักสิบห้านาทีนะ" ชัชชัยบอก

เช้าวันเสาร์ สิบโมงเป๊ะ ชัชชัยก็มาถึงสนามกอล์ฟ เขาโชว์ฝีมือสุดยอดจนเพื่อน ๆ กระเป๋าฉีกกันทั่วหน้า

สัปดาห์ต่อมา ศราวุธชวนชัชชัยไปขอแก้มือ

"ได้ครับ สิบโมงเจอกัน แต่ผมอาจจะไปสายซักสิบห้านาทีนะ" ชัชชัยบอกเหมือนเดิมเปี๊ยบ

แต่สิบโมงตรงไม่มีขาดไม่มีเกินไปแม้แต่วินาทีเดียว ชัชชัยก็มาถึง คราวนี้มาแปลกจากคราวก่อนจากคนถนัดขวา มาในมาดสิงห์อีซ้าย แต่ก็สุดยอดไม่แพ้กัน หนนี้เพื่อน ๆ กระเป๋ากลวงกันอีกรอบ

สัปดาห์ต่อมา หลังจากเพื่อน ๆ แอบไปซุ่มฟิตซ้อม เตรียมล้างแค้นชัชชัย และมาชวนชัชชัยอีก

"ไม่มีปัญหาครับ สิบโมงนะครับ แต่ผมอาจจะเลทซักสิบห้านาทีนะ" ชัชชัยพร้อมเสมอแต่ก็ยังใช้คำตอบรับแบบเดิม ๆ

เช้าวันเสาร์ต่อมาเป็นครั้งแรกที่ชัชชัยโผล่มาที่สนามกอล์ฟ สายไปสิบห้านาที แต่ยังโชว์ฟอร์มเยี่ยมตามเคย

"ผมล่ะข้องใจกับคุณจริง ๆ" ศราวุธเอ่ยถาม "บางวันคุณก็ตีมือซ้าย บางวันก็มือขวา แสดงว่าคุณถนัดทั้งสองข้าง แล้วคุณเลือกยังไงว่า จะตีมือซ้ายหรือมือขวาวันไหน"

"ไม่ยากเลยครับ" ชัชชัยยิ้ม "ตื่นเช้าขึ้นมา ถ้าเมียผมนอนตะแคงซ้าย วันนั้น ผมก็จะตีมือซ้าย ถ้าเมียผมตะแคงขวา ผมก็จะตีมือขวา"

เพื่อน ๆ ครางฮืออย่างทึ่งจัด กับเทคนิคของชัชชัย

"แล้วถ้าเมียคุณนอนหงายล่ะ" ศราวุธยังไม่หายสงสัย

"อ่า..." ชัชชัยยิ้ม ดวงตาแพรวพราว

"ถ้าเมียผมนอนหงาย เป็นอันว่าวันนั้น ผมก็ต้องมาสายสิบห้านาทีน่ะซิครับผม!!!"

Friday, June 24, 2011

เข้าผิดห้อง

นายหงอกมีโอกาสจะได้ไปเที่ยวทัศนาจรต่างประเทศ แต่ด้วยความที่รู้ภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ จึงมาถามเพื่อนว่า

เรื่องอะไรฉันก็ไม่วิตกจะกินจะนอนอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น แต่เรื่องส้วมนี่ฉันกลัวจริงๆ กลัวจะเข้าห้องผิด อายเขาตายห่ะ

เพื่อนที่มีความรู้ภาษาอังกฤษชนิด เสน็กๆ ฟิชๆ ก็บอกว่า ห้องสุขาชายเขาจะเขียนว่า MAN ของผู้หญิงเขาจะเขียนว่า WOMAN 



นายหงอกก็บอกว่าเผื่อจำไม่ได้ล่ะ

นายแมวเพื่อนผู้หวังดีก็บอกว่า

ก็จำไว้ซีผู้ชายตัวหนังสือมันสั้นกว่า ห้องผู้หญิงมันยาวกว่า

นายหงอกก็จำไว้ให้ขึ้นใจ เมื่อกลับจากทัศนาจรแล้วก็มาต่อว่านายแมวว่า

ฉันก็เข้าห้องสุขาที่มันเขียนสั้นๆ แล้วนี่หว่า พอออกมาผู้หญิงมองกันใหญ่เลย

แกเข้าห้องที่เขาเขียนว่ายังไง ใช่ภาษาอังกฤษหรือเปล่า

นายหงอกก็บอกว่า

ห้องหนึ่งมันเขียนยาวเฟื้อย ฉันก็เข้าห้องที่เขียนสั้นน่ะซี ไอ้เราก็สงสัยว่าทำไมมันไม่มีที่ฉี่

นายแมวสงสัย

จำได้ไหมห้องที่แกเข้ามันเขียนว่ายังไง

จำได้ซีมันสั้นนิดเดียว มีตัวแอล เอ ดี วาย
 !!!

Thursday, June 9, 2011

โชคดีนะเนี้ย

โหน่ง เกิดปวดท้องกระทันหัน  จึงตรงดิ่งเข้าบาร์ใกล้ๆ  

แต่มีลูกค้าแน่นร้าน โหน่งหาห้องน้ำไม่เจอ  จึ่งวิ่งขึ้นไปชั้นสองที่ปิดปรับปรุง

เขาเห็นห้องน้ำที่มีป้ายแขวน "ชำรุด"  แปะไว้ที่ประตู  

โหน่งไม่สนใจถีบเข้าไปจัดการธุระตัวเองจนเสร็จ  พอลงมาคนหายไปหมด

โหน่ง  :  เฮ้.....มีใครอยู่รึป่าว!  หายไปไหนกันหมด ?

สักพักก็มีพนักงานคลานออกมาจากใต้โต๊ะ

พนักงาน  :  เมื่อกี้มีขี้ลงมาจากเพดานโดนพัดลมเข้าพอดี  พวกเราวิ่งหนีกันวุ่นวายไปหมด 

คุณไม่โดนใช่ไม  แหม.....โชคดีจริงๆๆๆ 

Monday, May 30, 2011

ไม่ต้องไปฟัง

เย็นวันหนึ่ง  เลิศชายประกาศข่าวดีเสียงลั่นบ้านด้วยความตื่นเต้น..
"คุณพ่อครับ..คุณแม่ครับ ผมมีข่าวใหญ่มาบอกครับ..
ผมจะแต่งงานกับสาวสวยที่สุดในอำเภอนี้
เธอชื่อ  นิดหน่อย ครับ บ้านอยู่ถัดเราไป นิดเดียวเอง"
 
หลังอาหารเย็น..   พ่อก็ดึงเลิศชายไปคุยกันสองต่อสอง


"ลูก..  พ่อมีเรื่องคุยด้วย พ่อกับแม่แต่งงานกันมาสามสิบปีแม่ของลูกเป็นเมียที่ดี
เป็นแม่ศรีเรือนที่ไม่มีอะไรบกพร่อง  แต่เสียที่เรื่องสำคัญของชีวิตคู่
พ่อเลยแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงอื่นไว้หลายคน
ความจริงน่ะ  นิดหน่อยเป็นพี่น้องกับลูก เพียงแต่คนละแม่ ลูกแต่งงานด้วยไม่ได้นะ
"
 
หัวใจของเลิศชายแหลกสลาย  มีอาการซึมเศร้าไปร่วมปี
กว่าจะทำใจได้ และออกไปจีบสาวคนใหม่ ไม่นานนักก็กลับบ้านมาประกาศข่าวดีอีก..
"ผมคุยกับน้ำตาลแล้วครับ คุณพ่อคุณแม่ อีกสองเดือนเราจะแต่งงานกัน"

ครั้งนี้คุณพ่อก็ดึงตัวเลิศชายไปคุยกันสองต่อสองอีกครั้ง

"
น้ำตาลก็เป็นน้องของลูกเหมือนกัน   พ่อเสียใจจริงๆ ที่ลูกจะไม่ได้แต่งงาน"
  
เลิศชายหงุดหงิดจนคลั่ง ในที่สุดก็ตัดสินใจไปฟ้องแม่..

"พ่อทำงี้ได้ไง  พ่อเที่ยวไปมีลูกกับผู้หญิงอื่นทั่วอำเภอ
แล้วอย่างนี้ เมื่อไรผมถึงจะได้แต่งงาน
พอผมไปรักกับสาวคนไหน ก็กลายเป็นว่าจีบน้องสาวคนละแม่เข้าทุกที"

แม่ของเลิศชายได้ยินแล้วแทนที่จะโกรธ กลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดี 

"ไม่ต้องไปฟังคำที่พ่อเค้าพูดเลย.. ลูก  ที่จริงแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นพ่อของลูกหรอก !!!"

Thursday, May 26, 2011

เด็กฉลาด

วันหนึ่งป้ากับหลานสาวจอมซนวัย 6 ขวบ
ก็นั่งคุยกันถึงเรื่องการไปโรงเรียนของหลานสาว

ป้า : นี่เจ้าตัวยุ่งเปิดเทอมหน้านี้น่ะ
ถ้าป้าจะให้ไป-กลับโรงเรียนเองคนเดียวไปได้ไหม?
หลาน : ได้สิป้า หนูไปได้อยู่แล้ว
ป้า : ถ้าขึ้นรถเมล์แล้วจะลงป้ายหน้าบ้านถูกหรือจ๊ะ
หลาน : ถูกจ้ะ หนูจำทางได้แล้ว
ป้า : ถ้ากดกริ่งไม่ถึงจะทำยังไงล่ะ
หลาน : หนูก็บอกกระเป๋ารถให้กดให้น่ะสิป้า
ป้า : อืมม์ ใช้ได้นะเนี่ยเราน่ะ
แล้วถ้ากระเป๋าอยู่ไกลแล้วไม่ได้ยินเราพูดล่ะ
หลาน : หนูก็ตะโกนบอกคนขับน่ะสิไม่เห็นยากเลย
ป้า : เก่งมากหลานป้า....รู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้
แล้วหนูจะบอกคนขับรถว่ายังไงล่ะลูก?
หลาน : หนูก็ตะโกนบอกคนขับสิว่า "กดกริ่งด้วยยยยยยย"
ป้า : ???????? 



Wednesday, May 18, 2011

หมอเก่งจัง

คุณเปรมปรีย์ : "สวัสดีครับ คุณหมอ" ( พอเข้ามาในห้องตรวจก็ยกมือไหว้ )


หมอเก่งจัง

หมอ : "สวัสดีครับ...คุณมาหาหมอเพราะมีปัญหาเรื่องสายตาใช่มั้ยครับ"



คุณเปรมปรีย์ : "โอว์ ! ( อุทานด้วยความประหลาดใจ ) คุณหมอนี่เก่งจัง รู้ได้อย่างไรครับ ? "



หมอ : เอ้อ...ก็ตะกี้ตอนคุณเข้ามา คุณยกมือไหว้ตู้เย็น น่ะครับ "

Saturday, May 14, 2011

กฎ 2 ข้อ ของนักศึกษาแพทย์

เข้าเรียนวิชากายวิภาควิทยาเป็นครั้งแรก กับศพจริงซึ่งเป็นร่างกายของชายผู้เสียชีวิตแล้ว 
นักเรียนทุกคนล้อมรอบโต๊ะผ่าตัด ซึ่งมีร่างศพคลุมด้วยผ้าผืนสีขาว 

ศาตราจารย์ได้เริ่มการสอนโดยกล่าวกับ
นักศึกษาแพทย์ศาตร์ทั้งหลายว่า "ในวิชาแพทย์ศาสตร์"
มีเพียง 2 สิ่งสำคัญที่จะทำให้ท่านนั้น 
มีคุณสมบัติเป็นแพทย์ที่มีคุณภาพได้ คือ 

ข้อแรก..."มันเป็นความจำเป็นที่ท่านจะไม่ขยะแขยง" ศาตราจารย์ได้เปิดผ้าคลุมขึ้นและยัดนิ้วเข้าไปในรูทวารหนักของศพ 
แช่ไว้และเอานิ้วออกมา เขาดูดให้นักเรียนดู ศาตราจารย์กล่าวกับนักเรียนว่า 
"เอ้า! เร็ว นักศึกษาจงทำ!!" นักศึกษาแพทย์ต่างกลัวในเหตุการณ์ที่วิตถารเช่นนี้ 
แต่ภายหลังต่างก็หันมาผลัดกันยัดนิ้วของตนเข้าไปที่ทวารหนักของศพ
และนำมาดูดหลังจากเอานิ้วออกมา 
ครั้นเสร็จสิ้นจนครบทุกคน 
ศาตราจารย์เพ่งไปที่นักเรียนแพทย์และกล่าวขึ้น... คุณสมบัติของแพทย์ที่ดี.. 

ข้อที่สอง..คือ ต้องเป็นคนช่างสังเกตุ...เมื่อกี้อาจารย์เอานิ้วกลางยัดเข้าไป 
แต่อาจารย์ดูดที่นิ้วชี้
"กรุณาสนใจการสอนหน่อย..นักศึกษาทุกท่าน !!" 
55555555555555555555