Pages

Monday, February 3, 2014

10 เทคโนโลยียานยนต์ที่เจ๋งๆ แต่ก็ไม่ได้เจ๋งเสมอไป

ในปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมยานยนต์นั้นมีความก้าวหน้าไปมากมายหลายขั้นซึ่งมีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆแต่ท่านว่ามันจะเข้าท่าทุกอย่างหรือไม่ เราเอามาฝากให้ดูแบบขำขันกันแก่เครียด (หรืออาจะเขียนมากขึ้นกว่าเดิมก็ไม่รู้)


10. เครื่องเสียงระบบสัมผัส ของ Chevrolet Volt บางทีความล้ำหน้าไปก็ทำให้อะไรดูจะไม่ลงตัว อย่างเช่นเจ้ารถไฟฟ้า Chevrolet Volt นี้เองที่มันทำให้หลายคนต้องแปลกใจกับความไม่ลงตัวด้วยระบบความบันเทิงที่ทั้งหมดนั้นไม่ใช่ปุ่มแต่เป็นการสัมผัส ซึ่งเมื่อคุณแตะมันจะรับคำสั่งไปปฏิบัติตาม แต่ อย่าคิดว่ามันจะดูรู้สึกเหมือนคำพูด เพราะเอาเข้าจริงตอนแตะไปมันรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้เหมือนเราสัมผัสหน้าจอโทรศัพท์ ที่ใช้กันจนชิน อาจจะเรียกว่าเป็นสิ่งเดียวที่ Volt ตกม้าตายก็ได้
9. เบรกมือไฟฟ้า เบรกมือไฟฟ้า เราเริ่มเห็นมากขึ้นในรถยนต์อเมริกาตัวหรูกับเบรกมือไฟฟ้า ที่เริ่มติดตั้งมากขึ้น ข้อดีมันคือลดพื้นที่จากคันเบรกมือที่เอาไว้โยกกลายเป็นเพียงปุ่มที่ใช้นิ้วสะกิดก็เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ที่จริงก็ไม่เข้าท่านัก เพราะ นัยหนึ่งของเบรกมือ มันคือเบรกฉุกเฉินด้วย ซึ่งผู้เชี่ยวชาญการขับขี่ทั่วโลกกล่าวว่า คุณจะมีโอกาสรอดสูงขึ้นถ้ารู้จักใช้เบรกมือในยามฉุกเฉิน และเมื่อมันเป็นเบรกไฟฟ้า การทำงานที่ช้าของมัน ก็ทำให้ไม่สามารถตอบสนองยามฉุกเฉินได้ดีเท่าที่ควรนัก แต่ก็จริงอยู่ว่ายามหน้าสิ่วหน้าขวานจะมีใครคิดถึงเจ้าคันโยกข้างตัวหรือไม่
8. สัญญาณเตือนวัตถุกีดขวาง สัญญาณนี้มันก็คือการทำงานเดียวกับรูปแบบสัญญาณเตือนถอยจอดที่คอยกรี๊ดร้อง บี๊บๆ ตลอดเวลาที่มัน ทำงาน ช่วยบอกคุณว่า มันมีวัตถุ หรือใครทะลึ่งเดินตัดหลังรถคุณหรือไม่ ระบบสัญญาณนี้มีข้อดี แต่มันก็ทำให้เราขี้เกียจไปในตัว คุณจะเกิดการวางใจในตัวความไฮเทคมากเกินไป และท้ายที่สุด เมื่อมีความผิดพลาดกับระบบคุณจะไม่มีวันรู้ ดังนั้นอย่าเชื่อสัญญาณเหล่านี้มากไปนัก
7. เข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ เราหลายคนอาจจะไม่เคยเจอเจ้าเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ แต่กาลครั้งหนึ่งนี่คือเทคโนโลยีที่เรียกว่าทันสมัยที่สุดในโลก ก่อนที่จะมีถุงลมนิรภัยด้วยซ้ำไป โดยระบบ จะทำการล็อคเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ โดยอาศัยการเปลี่ยนตำแหน่งของ จุดยึดในตัวรถ โดยรถในอเมริกา ช่วงปี 1980 บางรุ่นมีระบบนี้ แต่ท้ายที่สุด มันก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ เมื่อจากการศึกษาพบว่า รถที่มีระบบเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ มีสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่ารถทั่วไป จนกระทั่งท้ายที่สุดในช่วงปี 1984 ก็ได้ปลดระวางระบบนี้ออกไป หลังจากที่มีกฎให้ผู้ผลิตรถยนต์ในอเมริกาต้องติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยอย่างน้อยสองระบบขึ้นไป ในรถที่วางจำหน่าย เมื่อประกอบกับความทันสมัยของถุงลมนิรภัยที่มีมากขึ้น มันจึงไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป
6. กระจกตัดแสงอัตโนมัติกระจกตัดแสงอัตโนมัติ ทุกวันนี้รถทุกครั้งมาพร้อมกระจกตัดแสงเป็นมาตรฐาน แต่ว่าถึงจะมีแต่จะมีสักกี่คนที่ใช้มันจริงจัง ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะพวกเขาไม่รู้ว่ามันมีให้ใช้งาน ดังนั้นค่ายรถยนต์บางเจ้าจึงคิดระบบที่ช่วยในการปรับกระจกให้มันตัดแสงอัตโนมัติขึ้นมา ข้อดีคือคุณไม่แม้แต่ต้องยื่นมือไปจับมัน ทว่าข้อเสียมันนั้นก็คือ มันจะรู้ใจคนขับได้อย่างไร เพราะ บางคนก็อาจจะคุ้นชินกับการขับรถที่ไม่มีกระจกแบบตัดแสง แถมไหนจะมีน้ำหนักเพิ่มมอเตอร์ไฟฟ้าในตัวมันอีกต่างหาก และแน่นอนว่าราคาของมันนั้นก็ไม่ใช่ถูกๆเลย
5. อ่านแผนที่ อ่านแผนที่ คงไม่เคยมีใครสงสัยว่าทำไมในห้องโดยสารต้องมีไฟ แล้วเราดันเรียกมันอีกว่า "ไฟส่องอ่านแผนที่" ที่จริงมันมาจากวงการแข่งรถแรลลี่ เมื่อช่วงปี 1970 สมัยที่การนำทางยังต้องอาศัยแผนที่และรถแรลลี่ก็ต้องใช้มันในการขับขี่ ไปให้ถึงเส้นชัย นั่นทำให้ Hella เข้ามามีบทบาทโดยพวกเขาคิดชุดไฟที่สามารถติดตั้งไว้ที่กระจกมองหลัง และสามารถส่องสว่างโดยไม่รบกวนสายตานักขับ และมันก็หลายมาเป็นออพชั่นแต่งรถของ Mercury Capri ก่อนที่จะเริ่มฮิตต่อเนื่องจนมาเป็นมาตรฐานอย่างที่เราเห็นกันในวันนี้ ที่ไม่เข้าท่าคือเราแทบไม่เคยใช้งานมันตามจุดประสงค์ของมันที่แท้จริงในการส่องอ่านแผนที แต่กลับใช้มันให้ความปลอดภัยหรือหาของมากกว่า และที่จริง คุณแทบจะนับครั้งที่ไปเปิดเจ้าไฟนี้ที่มีมาให้เพื่อคิดราคาเพิ่มกับคุณ
4. ไฟหน้าปรับทิศทางได้ ในช่วงราวๆปี 2000 เราหลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องไฟหน้าที่สามารถเลี้ยวตามการขับขี่ของเราในโค้ง ซึ่งทำให้เราสามารถมองเห็นมุมอับได้ในยามค่ำคืน แน่นอนว่ามันย่อมฟังดูดีมีประโยชน์ แต่แล้วก็เริ่มหายไปแล้วแทนที่ด้วยไฟที่ส่องสว่างมากกว่าเดิม ไฟหน้าปรับทิศทางได้ มันไร้ซึ่งประโยชน์แถมยังหลายเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี เพราะว่า พวกมันนั้นอาจะทำให้คุณมองลำบากขึ้นด้วยซ้ำไป ที่จริงอาจจะเป็­นเพราะเรากับคุ้นไฟธรรมดาที่หันตามโครงสร้างรถมากกว่า แต่ว่านอกจากมันดูยากกว่าเดิมแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่สูงมากขึ้นด้วย
3. ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ ปัดน้ำฝนอุปกรณ์ที่มีความสำคัญมากในการช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ในยามฝนตกพรำๆ และทุกวันนี้เราก็มักจะเจอ ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติมากับรถหรูเสมอ ใช่พวกมันฟังดูดีทีเดียว อย่างน้อยสุดคุณก็ไม่ต้องเสียแคลอรี่ในการทำให้พวกมันทำงาน ทั้งที่จริงๆ ส่วนใหญ่ก็เพียงแตะก้านให้มันทำงาน ง่ายกว่าปอกกล้วยเข้าปากเสียอีก แต่ด้วยเหตุผลความปลอดภัยอะไรก็ตามระบบอัตโนมัติจึงเข้ามากลายเป็นจุดขาย ซึ่งก็ดีที่ให้ความสบายมากขึ้น แต่ระบบก็ยังประเมินไม่ถูกต้องเท่าเซนเซอร์มนุษย์ว่าเมื่อไรควรจะปัด บางทีแค่น้ำเพียงหยดเล็กๆ ถ้ามันอยู่ใกล้เซนเซอร์มากพอ มันก็จะปัดเอง ทั้งที่อาจจะยังไม่จำเป็นก็ได้
2. ไม่คาดเข็มขัดเครื่องยนต์ไม่ติดไม่คาดเข็มขัดเครื่องยนต์ไม่ติด อาจจะเรียกว่าเป็นไอเดียที่ดีสำหรับคนไม่ชอบคาดเข็มขัด แต่มันดันมาผิดที่ผิดเวลา เพราะ เทคโนโลยีนี้มีมาตั้งแต่ปี 1973 แล้ว โดยคิดค้นเพื่อป้องกันให้คนไม่ประมาทและคาดเข็มขัดมีการออกกฏในบางรัฐอย่าง มินิโซต้า ว่าให้ทำระบบที่ทำให้คนคาดเข็มขัดนิรภัยก่อนสตาร์ท ซึ่งถ้าคุณไม่คาด รถก็จะสตาร์ทไม่ได้ ใช่แล้วมันฟังดูดีทีเดียวสำหรับแนวคิดแต่พวกเขาลืมไปว่า เครื่องยนต์คาร์บูเรเตอร์สมัยนั้นไม่ได้วางใจได้เหมือนเครื่องยนต์หัวฉีดสมัยนี้ ทำให้บางครั้งคาดแล้ว สตาร์ทแล้วไม่ติด ยังไงต้องคาดใหม่สตาร์ทใหม่ หลายทีเข้ามันก็น่ารำคาญ แต่เอาจริงๆถ้านำกลับมาใช้ยุคนี้รับรองว่าเวิร์คกว่าแน่นอน
1.Paddle Shift กระดิกแล้วเปลี่ยน น่าจะเป็นออพชั่นที่เราคุ้นหน้าตามากที่สุดเพราะรถยนต์หลายๆ รุ่นในปัจจุบันมีมันเป็นมาตรฐาน ซึ่งมันไม่ได้ไร้ค่าเสียทีเดียว เพียงแต่มันเชื่องช้าแม้จะมีการทำให้เกียร์ตอบสนองเร็วแล้วก็ตามแต่ท้ายที่สุด คุณก็จะพบว่ามันไม่เหมือนเกียร์ธรรมดาเสียทีเดียว ทำให้มันเป็นออพชั่นที่จะโดนใจก็ว่าไม่ใช่จะว่าใช้งานดีก็ไม่เชิง
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อบ้างอย่างที่คิดว่าดีแต่ก็ไม่ฟังไม่เข้าท่าเลยใช่ไหมล่ะค่ะสำหรับใครที่อ่านท่านคิดเหมือนกันหรือไหม?



ที่มา : sanook.com

Tuesday, January 21, 2014

ฤกษ์ดีในการออกรถยนต์ปี 2557


ฤกษ์ดีในการออกรถยนต์ปี2557ประจำเดือนมกราคม


สวัสดีปีใหม่ 2557 ที่ผ่านมาเกือบจะเดือนแล้ว เรามีเรื่องดีมาฝากอีกเช่นเพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยสำหรับใครที่กำลังที่จะมีโครงการที่จะออกรถใหม่หรือรถยนต์มือสองในช่วงเดือนแรกของปี 2557 นี้  ส่วนจะมีวันไหนและเวลาใดนั้นลองมาดูกันค่ะ

เดือนมกราคม 2557
*คนที่เกิดวันอาทิตย์ ฤกษ์ดีวันเวลาในการออกรถยนต์ปี 2557 นั้น
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
*คนที่เกิดวันจันทร์ ฤกษ์ดีวันเวลาในการออกรถยนต์ปี 2557 นั้น
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
*คนที่เกิดวันอังคาร ฤกษ์ดีวันเวลาในการออกรถยนต์ปี 2557 นั้น
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
*คนที่เกิดวันพุธ ฤกษ์ดีวันเวลาในการออกรถยนต์ปี 2557 นั้น
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
*คนที่เกิดวันพฤหัส ฤกษ์ดีวันเวลาในการออกรถยนต์ปี 2557 นั้น
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 


*คนที่เกิดวันศุกร์ ฤกษ์ดีวันเวลาในการออกรถยนต์ปี 2557 นั้น
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันศุกร์ที่ 3 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 17 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
วันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2557 เวลาสตาร์ทกุญแจ 09.59 น. 
*คนที่เกิดวันเสาร์ ฤกษ์ดีวันเวลาในการออกรถยนต์ปี 2557 นั้น
วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม  2557 เวลาสตาร์ทเครื่องยนต์รถยนต์เวลา 09.59 น.
                นี้เป็นข้อมูลฤกษ์ในการออกรถยนต์ปี 2557 ในเดือนแรกของปีนี้นำมาฝากเพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยให้เจ้าของรถยนต์ในการดำเนินชีวิต แต่ทุกสิ่งอย่างขึ้นอยู่กับการกระทำของบุคคลด้วยนะค่ะคนละครึ่งทางกับการพึ่งดวงและโชคชะตาในการดำรงอยู่นะค่ะข้อมูลกับฤกษ์ดีๆในการออกรถจะเป็นวันไหนเวลาใดมารอติดตามกันดูนะค่ะ

เครดิต : ขอขอบคุณข้อมูลจากอาจารย์เก่ง ชนกันต์จากเว็บไซต์ Horoworld

Thursday, January 16, 2014

ไอเดียสุดเจ๋งกับที่ปัดน้ำฝนรูปน้องเหมียว

ไอเดียสุดเริศกับที่ปัดน้ำฝนแมวเหมียวน่ารักจากสติ๊กเกอร์
         
หากพูดถึงสัตว์เลี้ยงที่มนุษย์เรานิยมเลี้ยงคนหนีไม่พ้นเจ้าตูบและแมวเหมียวแน่นอน วันนี้จึงนำไอเดียแต่งรถ เช่นเราอาจจะแต่ง รถยนต์ Mini สไตล์น่ารักเป็นต้น จากที่ปัดน้ำฝนธรรมดา ให้กลายเป็นน้องแมวสไตล์น่ารักเหมือนมีชีวิต จนคุณต้องอยากเปิดที่ปัดน้ำฝนบ่อยๆเลยละ



ซึ่งดูแล้วก็จับมาประยุกต์ได้หลากหลายตามใจชอบ เพียงแค่เข้าไปร้านสติ๊กเกอร์แล้วสั่งรูปสัตว์น่ารัก ๆ ที่มีหางขอแนะนำเป็นสไตล์การ์ตูนส่วนที่เป็นหางขอสัตว์ก็ทำลายให้คล้ายกับส่วนตัวโดยมีความยาวตั้งแต่ 4 นิ้วขึ้นไปมาทำให้ดูเท่มีสไตล์น่ารักอย่างน้องเหมียว ทั้งนี้ควรติดตั้งบริเวณ ที่ปัดด้านฝนด้านหลังและตัวสติ๊กเกอร์ไม่ควรมีขนาดใหญ่เกินไปเพราะบดบังทัศนวิสัยจากกระจกมองหลังได้ เพียงเท่านี้คุณก็จะมีที่ปัดน้ำฝนสุดแนวไม่ซ้ำซากจำเจ และในช่วงเวลาที่น่าเบื่ออย่างฝนตกอาจจะได้เห็นรอยยิ้มจากรถคันข้างๆคุณก็เป็นได้ที่ว่าเป็นไอเดียที่ดีมากๆเลยค่ะเป็นการสร้างรอยยิ้มให้กับรถยนต์ข้างเวลารถยนต์ติดอยู่บนท้องถนน
รถยนต์คันไหนๆก็สามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่ป้ายแดง รถยนต์มือสอง เก๋แบบมีสไตล์สำหรับคนรักรถและรักสัตว์เลี้ยงสามารถไปด้วยกันได้อย่างสวยงาม


สามารถเข้ามาดูรถยนต์มือสองได้ที่ Unseencar.com


เครดิตรูป : กระปุก

Wednesday, December 25, 2013

แมวเข้าน้องน้ำเองได้หรือไม่

  



แมว เป็นสัตว์เลี้ยงที่สวยงาม มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกเลี้ยงกัน และเป็นสัตว์ที่ผู้คนนิยมนำมาเลี้ยงไว้ภายในบ้านเพื่อเป็นเพื่อนมากขึ้นรองจากสุนัข และเพราะความน่ารัก ขี้อ้อนของเจ้าแมวเหมียวนั่นเอง จึงทำให้คนส่วนใหญ่อยากที่จะเลี้ยงแมวซึ่งเกิดจากความชอบส่วนตัวมากกว่า ดูแลสุขภาพอนามัยของน้องแมวก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เจ้าของแมวให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก แมวเป็นสัตว์ที่มีความพิถีพิถันในการใช้ห้องน้ำของเขาเป็นอย่างมาก เราจำเป็นต้องทำความสะอาดห้องน้ำของเขาอย่างน้อยวันละครั้งเพื่อกำจัดกลิ่นและควรนำกระบะทรายออกตากแดดเพื่อฆ่าเชื้ออย่างน้อยสัปดาห์ละ2-3 ครั้งนะค่ะ แต่ทั้งนี้คงจะดีไม่น้อยถ้าหากว่าน้องแมวของเรารู้จักใช้โถชักโครกที่เราใช้กันทั่วไปเพราะนอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังสอนให้พวกเขาใช้ห้องน้ำที่ไหนก็ได้ที่เราพาเขาไปด้วยค่ะงันเรามาดูกันเลยนะค่ะว่ามีวิธีไหนบ้างและต้องใช้อุปกรณ์อะไรกันบ้างในการสอนน้องแมวให้ใช้ห้องน้ำของเราให้เป็นค่ะ 





คนเราส่วนมากมักใช่วิธีการซื้อทรายกับกระบะทรายเพราะว่าเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกสบายที่สุดแต่ถ้าหากท่านใดที่พอมีเวลาสอนน้องแมวสุดที่รักเข้าห้องลองตามเรามาดู 5 ขึ้นตอนกับการสอนน้องแมวเข้าห้องน้ำก่อนอื่นเราก็ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมค่ะ ก็จะมี ทราย โถอลูมิเนียม ฐานรองกระบะทราย เทปที่ใช้ติด เพียงแค่นี้เราก็สอนให้น้องแมวเข้าห้องน้ำของเราได้ค่ะ ทีนี้เมื่อเรามีอุปกรณ์ครบแล้วเราก็มาดู
 
1. ให้เราเอากระบะทรายที่น้องแมวใช้เป็นประจำไปวางไว้ในห้องน้ำใกล้ๆกับชักโครกเพื่อที่จะให้น้องแมวเขาเกิดความเคยชิน และให้เปิดฝาชักโครกกับประตูห้องน้ำไว้ตลอด ทิ้งไว้สักหนึ่งสัปดาห์จนกว่าเขาจะเข้า-ออกห้องน้ำโดยใช้กระบะทรายได้ปกติ

2.ให้หาอะไรมาหนุนเป็นฐานรองกระบะทรายเอาไว้ให้สูงในระดับเดียวกันกับชักโครกของเราและให้เปิดฝากระบะทรายไว้ตลอดนะค่ะเพื่อเขาจะกระโดดไปบนกระบะทรายหรือกระโดดไปเดินตรงปากชักโครกจะได้เคยชินไว้และก็ทิ้งไว้อีกหนึ่งสัปดาห์ วิธีนี้แมวบางตัวอาจจะเรียนรู้ได้เร็วและบางตัวอาจจะช้า เราก็ต้องให้เวลาเขาค่ะ 

3.นี้ให้เอาโถอลูมิเนียมไปวางไว้ในโถชักโครกที่มีขนาดพอดีกับชักโครกพร้อมกับใส่ทรายลงไปในนั้นประมาณ 2 ถ้วยตวง แนะนำว่าควรใช้ทรายที่สามารถทิ้งลงชักโครกได้โดยไม่ติดชักโครกนะค่ะ 

4.วิธีนี้สำคัญมากค่ะ ถ้าเราไม่มีเวลาว่างพอก็ควรข้ามวิธีนี้ไปก่อน เราต้องมีเวลาว่างพอที่จะเต็มที่กับน้องแมวได้ค่ะ ถึงขั้นนี้แล้วน้องแมวของเราคงจะคุ้นเคยกับการเดินบนปากชักโครกแล้วหรือบางทีอาจใช้โถอลูมิเนียมแล้วก็ได้ ให้เราเอากระบะทรายออกมาโดยอย่าให้เขาเห็นอีกเลยแล้วก็คอยดูเขาเวลาใช้ห้องน้ำค่ะอย่าลืมเปิดฝาชักโครกไว้ตลอดนะค่ะถ้าจะให้ดีติดเทปใสไว้เลยจะได้ไม่มีปัญหาในการปิดลงมาเอง สังเกตดูเวลาเขาก่อนใช้จะด่อมๆมองๆในโถอลูมิเนียมที่มีทรายอยู่ น้องแมวที่เรียนรู้มาถึงวิธีนี้แล้วจะกระโดดไปบนชักโครกและพยายามใช้มัน เราก็คอยดูว่าน้องแมวใช้ชักโครกถูกวิธีหรือไหมถ้ายังไม่ถูกเราก็ช่วยจับเขาให้ถูกวิธีและเขาจะได้ชิน ทำอยู่แบบนี้ประมาณหนึ่งหรือสองสัปดาห์นะค่ะ หลังจากที่เราฝึกน้องแมวผ่านไปแล้วสี่วิธี 

5.วิธีนี้ให้เราลดปริมาณทรายในโถอลูมิเนียมลงทีละนิดจนสุดท้ายใส่น้ำลงไปแทนแต่นิดเดียวนะค่ะเพราะแมวไม่ชอบน้ำ ดังนั้นถ้าเห็นเขาใช้โถอลูมิเนียมที่มีน้ำอยู่แล้ว สักประมาณ 4-5 วันเราก็ค่อยเอาโถอลูมิเนียมออก หลังจากนั้นเขาก็จะใช้ชักโครกได้เป็นปกติค่ะ

การสอนน้องแมวให้เรียนรู้วิธีในการใช้โถชักโครกนั้น อาจเป็นวิธีที่ยุ่งยากสักหน่อยแต่ถ้าเราสามารถฝึกได้เราก็จะสบาย แต่การสอนความยากง่ายนั้นขึ้นอยู่กับการเรียนรู้ของน้องแมวแต่ละตัวด้วยนะค่ะ แต่ถ้าจะเรียนรู้ได้ดีต้องมีอายุระหว่าง1-3 ปี  คือแมวที่อายุยังน้อยอยู่ ถ้าใครมีแมวหลายตัวและอายุแตกต่างกันไปก็อาจจะสอนยากหน่อย แต่ไม่ว่าน้องแมวของเราจะมีอายุมากหรืออายุน้อย เราก็ต้องใจเย็นๆกับเขาและให้เวลาเขาได้ฝึกใช้ห้องน้ำนะค่ะลองทำดูค่ะ

สาระความรู้เกี่ยวกับสัตว์เลีัยงอื่นๆอีกมากมายคลิกได้ที่นี่ สารพันธ์ุสัตว์เลี้ยง

Wednesday, December 11, 2013

โอ้! ไม่นะ เอาจริงหรือนี่ Justin Bieber แทน Paul Walker



ก่อนหน้านี่พระเอกดาวรุ่ง Paul Walker ในเรื่อง Fast and Furious ผู้ที่มีความบ้าคลั่งในโลกแห่งวงการรถยนต์ยานยนต์ของเขารวมทั่งความรักที่เขามีต่อรถยนต์และนั่นเป็นการส่งเสริมให้เขามีบุคลิกที่เหมาะสมกับภาพยนตร์ในเรื่อง Fast and Furious นี่เป็นอย่ามาก



 แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวที่เป็นที่น่าสลดใจเป็นอย่างมากที่เกี่ยวกับตัวเอกในเรื่อง Fast and Furious ที่ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำระหว่างเดินทางกลับจากงานการกุศลทำให้มีการศสูญเสียให้กับหนังเรื่องนี่เป็นอย่างมากและจึงทำให้การถ่ายทำหนังเรื่องนี่ระงับลงชั่วคร่าวและล่าสุดที่มีข่าวออกมาว่ามีการได้อัพเดทตัวละครที่จะมาแทน Paul Walker นั่นคือ  Justin Bieber ซึ่งโอ้แม่เจ้าเราว่ามันไม่ใช้ซึ่งก็ไม่ได้เห็นด้วยหนัก(นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ)ตี่เราก็ยังไม่แน่ใจหนักว่าเขาจะมาแทนพอลหรือเปล่าหรือว่าจะมาเล่นในบทบาทไหนก็ตามด้วยบุคลิกและท่าทางนั้น  Justin Bieber ไม่มีเคล้าเลยเพราะว่าเขาดูเหมือนเป็นหนุ่มเนื้อหอมที่บอบบางแต่ถึงว่า Justin Bieber ได้มีความสนิทสนมกับ Ludacris เพราะว่าร้องเพลงด้วยกันแต่อย่างไรก็ตามเด็กที่อายุ19ที่เป็นนักร้องจะมาอยู่ในแก๊งค์รถซิ่ง ซึ่งน้องว่ามันไม่ใช่แต่ที่สำคัญจะไม่สามารถมานั่งในใจแฟนคลับหนัง  Fast and Furious ได้อย่างแน่นอน


เป็นอีกข่าวหนึ่งที่ค่อนข้างช็อกวงการเหมือนกันที่เจอข่าวนี้เข้าไปแต่อย่างไรก็ยังไม่ได้มีการคอนเฟิร์มข่าวแต่อย่างใดต้องมารอลุ้นติดตามข่าวกันนะค่ะแต่ลุ้นอย่าให้เป็นเรื่องจริงเลย