Pages

Thursday, January 31, 2013

เพราะฉันติดเกมส์รถวิบาก




                ตอนเด็กๆฉันไม่รู้ว่าใครเป็นยังไงกันบ้าง แต่ฉันเชื่อว่าหลายๆอาจเคยถูกพ่อแม่ตีเหมือนฉันก็ได้  ฉันจำได้สนิทตอนนั้นฉันเรียนชั้น ป.5 ฉัน ติดเกมส์ งอมแงม  เวลาที่ไปโรงเรียนฉันก็ไม่อยากไป ฉันอยากเล่นเกมส์อยู่ที่บ้าน  เวลาที่ฉันอยู่โรงเรียนฉันก็อยากกลับบ้าน  เวลาเรียนฉันก็เหม่อลอยอยากกลับบ้าน   อยากกลับมาเล่นเกมส์  เกมส์ที่ฉันเล่นในตอนนั้นเป็น เกมส์รถวิบาก  ฉันชอบมาก  เวลาที่ฉันได้เล่นเกมส์ฉันไม่อยากกินข้าว ไม่อยากอาบน้ำ และฉันก็ไม่ชอบให้ใครรบกวน  ฉันทำตัวก้าวร้าวทุกครั้งที่พ่อหรือแม่มาเรียกฉันไปกินข้าว ฉันกระทืบเท้าแรงๆจนถูกแม่ตีทุกครั้ง  เพราะฉันติดเกมส์มาก  แต่การที่แม่ตีฉันไม่ได้ช่วยอะไรเลย  ฉันยังคงดื้อรั้นเหมือนเดิม ญาติๆฉันก็ไม่มีใครรักฉัน  เพราะมองว่าฉันเป็นเด็กก้าวร้าว  เด็กมีปัญหา  ญาติๆฉันต่อว่าแม่ฉันว่าตามใจฉัน  แต่ตอนนั้นฉันยังเด็กฉันไม่คิดอะไรเลย  พอโตมาอีกหน่อย  เพื่อนๆจะเข้าเรียน ม .1  แถวบ้านฉันซึ่งอยู่ชนบท ลูกบ้านไหนได้เรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ก็จะภูมิใจมาก  ฉันไปสอบเหมือนเพื่อน  แม้แต่ในห้องสอบฉันก็ยังคงคิดถึงเกมส์รถวิบาก ฉันไม่มีสมาธิสอบ ผลที่ตามมาคือฉันไม่ได้เข้าเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด  ฉันเสียใจมาก แต่ก็ไม่ทำให้ฉันเลิกติดเกมส์ฉันยังคงเป็นเด็กติดเกมส์  แต่ฉันก็เรียนที่โรงเรียนประจำอำเภอ  แน่นอน พอเข้าม 1 แล้ว  การบ้านก็เริ่มเยอะ  และอีกทั้งติดเกมส์  สอบทีไรฉันก็ตกบ้างผ่านบ้าง  ฉันเรียนๆแบบถูๆไถๆมาตลอด  จนกระทั่งจบ ม. 3  ที่บ้านฉัน พ่อกับแม่ ดุฉันทุกครั้งที่ฉันเข้าห้อง  เพราะเขารู้ว่า ฉันต้องปิดห้องนอนเล่นเกมแน่ๆ  แต่ฉันเป็นเด็กดื้อฉันโกหก พ่อกับแม่ว่า ฉันทำการบ้าน  แต่ฉันไม่ได้ทำ  ผลสอบออกมา ฉันสอบได้ที่สุดท้ายของห้อง  เพื่อนๆล้อฉันว่า ฉันโง่  ทำให้ฉันอาย  และฉันก็ไม่อยากไปโรงเรียน  ตอนนี้ฉันเลิกเล่นเกมส์แล้วฉันกำลังหาที่เรียนต่อ  วันนี้ฉันรู้แล้วผลของการไม่ต้องใจเรียนตั้งแต่ต้นเป็นยังไง  
             ฉันอยากเตือนน้องๆว่า ตั้งใจเรียนเถอะ เพราะเวลาที่จะสอบเข้ามหาลัย มันเป็นการเป็นจุดชี้อนาคตของเราเลยก็ว่าได้  สำหรับน้องๆที่ติดเกม  พี่อยากแนะนำว่า  น้องจะต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ดี  ขยันทำการบ้าน ขยันส่งงาน ตั้งใจเรียน จบม. 6  มาจะได้มีโอกาสเข้าเรียนที่ดีๆ ที่ๆอยากเรียน

Monday, January 28, 2013

วิธีป้องกันการหลับในขณะขับรถยนต์



คนเรามีโอกาสหลับในระหว่างการขับรถยนต์ได้ทุกคน หลายท่านคงเคยมีประสบการณ์ตรงนี้มาแล้ว และอีกหลายท่านต้องเคยรู้สึกง่วงนอนในขณะขับรถ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่รถติดหรือวิ่งทางไกลมากๆ วิธีป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ดีที่สุดคือเมื่อไรที่รู้สึกว่าง่วงนอนให้เลิกขับรถแล้วหาสถานที่ปลอดภัยตามปั้มน้ำมัน จุดตรวจรถหรือจุดพักรถที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลหรือค่อนข้างมั่นใจว่าปลอดภัย ลงไปล้างหน้าล้างตา ยืดเส้นยืดสายหรืองีบหลับสัก 10-15 นาที แล้วค่อยขับรถไปต่อน่าจะปลอดภัยที่สุดผลจากการสำรวจคนขับรถในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา พบว่า 1 ใน 4 ของคนขับรถทั้งหมดเคยหลับในมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่เสี่ยงอันตรายมากๆ เว็บไซต์สถาบันหัวใจ-ปอด-เลือดของสหรัฐอเมริกา(NHLBI) มีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีป้องกันการขับรถหลับในไว้ 

ดังนี้นอนเต็มอิ่มเพียงคืนเดียว = ไม่พอ
การศึกษาเปรียบเทียบระยะเวลาตอบสนองต่อสิ่งเร้า (response time / RT) ซึ่งมีความสำคัญในเหตุคับขัน เช่น เบรกเมื่อจะชนหรือจะตกถนน ถ้าเปรียบเทียบกับระยะเวลานอนของคนขับรถพบว่า การนอนในปริมาณที่มากพอ 7-8 ชั่วโมงใน 1 คืนก่อนเดินทาง ยังทำให้ระยะเวลาตอบสนองต่อสิ่งเร้าลดลงได้ไม่ดีพอ จำเป็นต้องนอนให้มากพออย่างน้อย2 คืนขึ้นไป
กลไกที่เกิดขึ้น คือ เวลาเราอดนอน.สมองจะทำงานช้าลง มีอาการวูบหลับช่วงสั้นๆ
และตามมาด้วยการหลับใน การที่สมองจะมีประสิทธิภาพที่ดีอย่างเต็มที่ได้ สมองต้องการชั่วโมงการนอนชดใช้ชั่วโมงการนอนที่สูญเสียไปเป็นระยะเวลาหลายวัน เพราะฉะนั้น ทางที่ดีคือ ถ้าไม่ได้นอนเต็มที่ติดกันอย่างน้อย 2 วันจึงไม่ควรขับรถ หรือถ้าขับรถก็อย่าขับรถทางไกลทานอาหารแต่พอดี 
 
มื้อเช้ามีความสำคัญต่อสมรรถภาพการทำงานของสมองมากที่สุด การอดอาหารจะทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ มีโอกาสหน้ามืดหรือเป็นลมได้ง่าย ส่วนมื้อเที่ยงหรือตอนบ่ายควรทานอาหารในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไปหากต้องขับรถ เพราะจะทำให้ง่วงได้ง่ายขึ้นดูแลร่างกายอย่าให้ขาดน้ำคนจำนวนมาก มีอาการ ขาดน้ำ เรื้อรัง ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ทำให้เพิ่มโอกาสเกิดโรคหลอด เลือดสมองตีบตัน เนื่องจากสัดส่วนน้ำในเลือดลดลง เลือดจะเหนียวข้นขึ้นและจับตัวเป็นลิ่มเลือดได้ง่าย นอกจากนี้ยังอาจ ทำ ให้มีอาการปวดหัวไม่ทราบสาเหตุ คลื่นไส้ ปากแห้ง คอแห้ง อ่อนเพลีย สมาธิสั้น ทำให้เหนื่อยล้าได้ง่าย และเมื่อประกอบกับการนั่งขับรถนานๆ จะยิ่งเพิ่มโอกาสการ เ กิดโรคหล ด
เลือดดำอุดตันโดยเฉพาะที่น่องวิธีป้องกันที่ดีคือพยายามดื่มน้ำให้เพียงพอไว้ตลอด ท่านสามารถ สังเกตว่าตัวเองอยู่ในภาวะขาดน้ำได้จากการไม่ถ่ายปัสสาวะ ครั้งหนึ่งเกิ น
2 ชั่วโมงขึ้นไป และการรอให้ร่างกายกระหายน้ำก่อนแล้วค่อย ดื่มน้ำถือว่าสายเกินไปหลีกเลี่ยงช่วงเวลาอันตรายคือ 24.00-07.00 น. เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่คนมักจะหลับในบ่อยที่สุด
 อย่าขับรถคนเดียวการมีคนนั่งบนรถหลายคนมีส่วนช่วยให้โอกาสหลับน้อยลงเพราะการพูดคุยกับคนอื่นจะช่วยกระตุ้นให้สมองทำงานเพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากเลือกคนโดยสารที่ตื่นนอนและคุยกับท่านตลอดการเดินทางไม่ได้ ท่านควรหาอะไรทำไปด้วย เช่น สวดมนต์ร้องเพลง เป็นต้น แต่อย่าดูโทรทัศน์ หรือใช้มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์อีกข้างจับพวงมาลัย เพราะจะทำให้เกิดอุบัติเหตุง่ายขึ้น .และถ้าฟังเพลงไม่ควรฟังเพลงประเภทกล่อมนอนเพราะอาจทำให้ง่วงนอนมากขึ้น นอกจากนี้ท่านั่งในการขับรถก็มีผลต่อการขับรถด้วยเช่นกัน ท่านั่งที่ไม่ดีจะเพิ่มโอกาสเมื่อยล้า ปวดหลังและอาจทำให้ง่วงได้พักรถพักคนบ่อยๆ  การพักรถ พักคนทุกๆ 2 ชั่วโมง สามารถทำให้ความเหนื่อยล้าลดลง ร่างกายจะสดชื่นและเพิ่มสมรรถภาพในการขับรถได้ยาวนานขึ้น ขณะที่พักรถผู้ขับรถควรเดินไปเดินมา เข้าห้องน้ำ ดื่มน้ำหรือเครื่องดื่ม ล้างมือด้วยสบู่   เพื่อลดโอกาสติดไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัด และหวัด   ก่อนแล้วล้างหน้าล้างตา หรือถ้าเป็นไปได้ควรหาจุดพักนอน 15-20 นาทีทันทีที่ง่วงซึ่งต้องวางแผนล่วงหน้า เพื่อหาสถานที่ที่ปลอดภัยพอที่จะพักผ่อนนอนหลับได้กาแฟ -คาเฟอีนก่อนเดินทางอย่างน้อย 2-3 วัน ควรงดดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีน ซึ่งมีในน้ำชา โกโก้ ช็อกโกแลต น้ำดื่มชนิดน้ำดำ เครื่องดื่มประเภทกระตุ้นร่างกาย ก่อนนอน 8 ชั่วโมงเพื่อให้ร่างกายได้นอนหลับสนิทในช่วงระหว่างขับรถ คาเฟอีนอาจช่วยให้หายง่วงได้ถ้านอนมากพอก่อนเดินทางอย่างน้อย 2 วัน ขนาดของคาเฟอีนที่ช่วยกระตุ้นให้ตื่นตัวได้จะอยู่ในช่วง 100-200 มิลลิกรัม (กาแฟ ขนาด 1-2 กระป๋องหรือถ้วยเล็ก) โดยจะออกฤทธิ์หลังดื่มประมาณ 30 นาทีขึ้นไป แต่ถ้านอนไม่พอหรือง่วง.การนอนพัก 15-20 นาทีจะดีกว่าดื่มกาแฟแล้วขับต่อไปเรื่อยๆอย่าดื่มแอลกอฮอล์ หรือทานยาแก้แพ้ ยาคลายเครียด เพิ่มเสี่ยงหลับในในกรณีที่ดื่มเหล้าถ้าเกิดอุบัติเหตุ.

Thursday, January 24, 2013

ไฟแนนซ์



คำว่าไฟแนนซ์หลายคนอาจจะคุ้นหูกับคำนี้เพราะเป็นสินเชื่อหรือเรียกง่ายๆว่าเช่าซื้อนั่นเองที่หลายคนยังใช้บริการอยู่เพราะส่วนมากเราจะใช้ไฟแนนซ์ในการซื้อรถยนต์เป็นส่วนมากไฟแนนซ์นั้นก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียพอๆกันเรามาทำความรู้จักกับคำว่าไฟแนนซ์กันให้มากขึ้นดีกว่า


                 คนส่วนมากที่ซื้อรถยนต์ในปัจจุบันนี้มักจะใช้บริการไฟแนนซ์หรือสินเชื่อที่เราต้องมีคุณสมบัติให้เข้าเกณฑ์เพื่อให้ธนาคารอนุมัติคำขอของเราเพราะถ้าไฟแนนซ์ผ่านเราก็จะได้ดาวน์รถมาขับก่อนในราคาที่ถูกเพียงแค่ดาวน์ 5 -25 เปอร์เช็น ของราคารถคันนั้น หลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของธนาคารหรือบริษัทที่ให้บริการไฟแนนซ์นั้นๆในการอนุมัติวงเงินแต่กว่าจะผ่านก็ไม่ใช่ง่ายๆนะครับต้องมีเอกสารหรือหน้าที่การงานที่หน้าเชื่อถือหรือมีผู้รับประกันอีกคนสองคนที่มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีอีกต่างหาก แต่หากเป็นคนที่มีตำแหน่งเป็นข้าราชการก็จะมีความน่าเชื่อถือมากหน่อยและอนุมัติเร็วขึ้นแต่ถ้าผ่านแล้วก็ต้องมาผ่อนชำระตามที่ตงลงกับบริษัทหรือธนาคารนั้นๆไว้อาจจะชำระ 12 งวด หรือ 24 งวด แต่ไม่เกิน 84 งวดนะครับ ส่วนเรื่องดอกเบี้ยก็ขึ้นอยู่กับบริษัทราคาจะมากหรือน้อยก็ว่ากันไปแต่ถ้าเป็นรถมือสองดอกเบี้ยก็จะมากหน่อยเพราะเป็นรถเก่านั้นตีราคาได้ไม่เยอะมาก( มากกว่า 15 ปี) การที่จัดทำไฟแนนซ์ผ่านใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีๆอย่างเดียวนะครับ ข้อดีเสียของไฟแนนซ์ก็มีเหมือนกันเช่น หากคุณสมบัติของผู้ที่ขอกู้สินเชื่อไม่เป็นไปตามเกณฑ์ของบริษัทหรือธนาคารนั้นๆ คุณก็ไม่มีสิทธิ์ได้ง่ายๆ และข้อเสียอีกอย่างคือ แต่ละที่นั้นมีสินเชื่อหรือมีดอกเบี้ยที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์เดียวกันหรือไม่เท่ากันนั่นเองและดอกเบี้ยจะสูงหรือจะต่ำขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ตัวนั้นๆ และถ้าเราจ่ายเงินไม่ตรงเวลาก็มีค่าปรับที่แพงอีกด้วย ส่วนข้อดีนั้น ทำให้เราได้รถอันสวยหรูที่มีราคาแพงมาขับโดยไม่ต้องจ่ายทีเดียวแพงๆในครั้งเดียว สามารถผ่อนชำระได้เป็นงวดๆที่เท่ากัน ผ่อนในราคาที่ไม่มากในแต่ละงวดแต่ไม่เกิน 84 เดือน ทำให้เราควบคุมค่าใช้จ่ายของตัวเราเองในแต่ละเดือนได้ด้วย
                    จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสียภายในตัวของมันเองดั้งนั้นก่อนที่เราจะผ่อนรถยนต์หรือจะทำอะไรเราควรคิดให้ดีเสียก่อนเพราะถ้าเกิดไปจำทำไฟแนนซ์ผ่านแล้วส่งไม่ไหวรถที่เราเก็บเงินดาวน์มาทั้งปีหรือผ่อนมาตั้งนานก็อาจโดนเขายึดไปได้ดั้งนั้นก่อนที่จะทำอะไรควรคิดให้รอบครอบก่อนนะครับ

Wednesday, January 23, 2013

บทความทะเบียนสวย



ถ้าพูดถึงรถยนต์อันดับแรกที่ทุกคนจะต้องนึกคือเลข ทะเบียนสวยๆ แต่ทว่าถ้าใครต้องการที่อยากจะได้เลขทะเบียนสวยๆก็ต้องมีการซื้อขายหรือประมูลหลายคนหนักที่ต้องยอมจ่ายในราคาที่สูงเป็นแสนหรือหลักล้านเพื่อที่จะใด้มันมาเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตัวเองตามความเชื่อของบุคคลดังนั้นเราเราดูเรื่องตัวเลขที่เกี่ยวกับทะเบียนกันดีกว่า


            เรามาเริ่มกันด้วยตัวเลขที่ต้องห้ามที่เกี่ยวกับวันเกิดกันดีกว่าสำหรับคนที่เกิดวันอาทิตย์ตัวเลขต้องห้ามคือห้ามมีเลข 6 และคนที่เกิดวันจันทร์ห้ามมีเลข 1 ส่วนคนที่เกิดวันพุธเวลา 06.00 17.59 นั้นห้ามมีเลข 3 และคนที่เกิดวันพุธเวลา 18.00-05-59 ห้ามมีเลข 5 วันพฤหัสห้ามมีเลข 7 วันศุกร์ห้ามีเลข 8 และสุดท้าสำหรับคนที่เกิดวันเสาร์นั้นห้ามมีเลข 4 และต่อมาเลขที่ห้ามอยู่ติดกันตามความเชื่อเขามักจะเชื่อว่าเดี๋ยวมันจะมีอุบัติเหตุ นั้นคือเลข 13 31 37 73 35 53 30 03 ยกตัวอย่างคร่าวๆนะครับ 1313 3100 3737 3137 3537 7353 3031 เป็นต้นนะครับ และอีกอย่าง ตัวเลขที่รวกันแล้วห้ามได้เท่ากับ 13 31 35 เช่นทะเบียนดังต่อไปนี้  1291 1129 2182 4900 5800  รวมกันแล้วจะเท่ากับ 13 พอดีและ 7789 รวมกันจะได้เท่ากับ 31 พอดี 9989 รวมกันแล้วจะเท่ากับ 35 ครับ นอกจากเรื่องรถแล้ว ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญคือเรื่องอุบัติเหตุ เพราะตามความเชื่อทางโหราศาสตร์ นอกจากตัวเลขแล้วก็ยังมีเรื่องของสีของรถที่เข้ามามีส่วนต่อการออกรถอีก
เราจะยกตัวอย่างคร่าวๆนะครับ สำหรับคนที่เกิดวันอาทิตย์ ห้ามใช้สีน้ำเงิน วันจันทร์ ห้ามใช้สีแดง วันอังคารห้ามใช้สี ขาวและสีเหลือง คนเกิดวันพุธ 06.00 17.59 น ห้ามใช้สีชมพู และวันพุธ 18.00 05-59 น ห้มใช้สีส้ม สีแสด วันพฤหัสห้ามใช้สีม่วง วันศุกร์ห้ามใช้สีดำ เทา สีเขียวอ่อน และสุดทายวันเสาร์ห้ามใช้สีเขียวหัวเป็ด ถ้าจะแก้เคล็ดก็ควรเอาของมาเสริม ดีกว่าไม่ต้องไปทำอะไรที่มันเกินตัว ควรแก้เคล็ดให้พอเหมาะอย่ากังวลมากจนเกินไป เพราะมันอาจจะไม่เป็นผลดีต่อเรา และส่วนเลขทะเบียนที่เป็นผลดีต่อเราคือเลข 189 เพราะว่าเลข 189 ซึ่งมีผลรวมเท่ากับ 18 และนำแต่ละตัวมาบวกกันจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 9 และถ้าจะให้ดีคนขับน่าจะเป็นผู้ชายนะครับที่กล่าวมานี้ก็แค่เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ ที่นำมาฝากกัน
         ทางที่ดีที่สุดที่อยากจะแนะนำก็คือ ไม่ต้องไปพึ่งตัวเลขใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าทำความดี คิดดี อย่าไปคิดอะไรมากครับ  คิดในสิ่งที่ถูกต้องคิดอยากจะได้อะไรก็จะได้ตามที่ปรารถนาโดยไม่ต้องพึ่งตัวเลขแต่อย่างใดนะครับ