สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกท่านช่วงนี้ถ้าใครสั่งเกตดีๆจะรู้และเห็นว่าทุกวันนี้รถยนต์มีมามากมายหลายรุ่นมากและเชื่อว่าหลายท่านคงอยากจะได้มาไว้ใช้งานกันสักคันแต่คนไทยเรามีความเชื่อเรื่องดวงมากไม่ว่าจะเป็นการออกรถใหม่รถเก่ารถมือสองก็ตามต้องมีการดูฤกษ์งามยามดีให้กับตัวเจ้าของที่จะซื้อรถเพื่อเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยและเป็นสิริมงคล
ดังนั้นวันนี้ได้นำฤกษ์ออกรถมาฝากกัน
ว่าด้วยการออกรถนั้นเป็นความเชื่อของคนไทยที่ว่าถ้าเราออกรถถูกวัน ถูกสี
ก็สามารถจะช่วยให้เจ้าของรถพบแต่ความสุข เดินทางปลอดภัย คนไทยเราจึงถือเรื่อง กันอย่างมาก ๆ เลยทีเดียวเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่ดีงามที่เราทำต่อๆกันมา
-ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะซื้อรถวันอาทิตย์
ตามตำราท่านว่าคนไหนที่ซื้อรถวันอาทิตย์จะรู้สึกไม่สบายกายและใจ
รู้สึกร้อนรุ่มเหมือนดวงอาทิตย์มาสุมอยู่กลางหัวใจ
-ควรจะซื้อรถวันจันทร์ใครที่ซื้อรถในวันจันทร์ท่านว่าจะได้รับโชคลาภอยู่เสมอช่วยหนุนให้ทำมาค้าขึ้นทำ ธุรกิจมีกำไร
-ไม่ควรจะซื้อรถวันอังคาร
ตามตำราท่านว่าไว้คือ
ใครที่ซื้อรถวันอังคารจะมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจในเรื่องของเงิน ๆ ทอง ๆ อยู่เสมอ
ฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงจะดีที่สุด
-ไม่ควรจะซื้อรถในวันพุธ
สำหรับวันพุธนี้โบราณท่านว่าไวคือจะมีปัญหาร้อนเนื้อร้อนใจ
เพราะวันพุธเป็นวันที่แรง ทำให้หนี้สินเพิ่มพูนขึ้นมา
ทำให้เจ้าของรถไม่สบายใจถ้าออกรถในวันนี้
-ไม่ควรซื้อรถในวันพฤหัสบดี
ใครที่ออกรถรถในวันนี้ท่านว่าเป็นวันครู
เป็นวันที่จะทำให้เราไม่สบายใจมีเรื่องเข้ามาให้ทุกข์อยู่เสมอ เป็นไปได้หลีกเลี่ยงวันนี้ไปเลย
จะดีอย่างมาก ๆ
-ควรซื้อรถวันศุกร์
ท่านว่าใครก็ตามที่ออกรถวันศุกร์จะได้รับแต่ความร่มเย็นเป็นสุข
สบายกายสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่มีอะไรมาทำอันตรายเราได้
-ไม่ควรออกรถวันเสาร์
สำหรับวันเสาร์นี้ท่านว่าร้ายแรงที่สุดที่ไม่ควรออกรถอย่างยิ่งเลย
เพราะตามโบราณท่านว่าจะเกิดอุบัติเหตุง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ
ก็จะทำให้เสียเงินเสียทองไปโดยเปล่าประโยชน์
-ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะออกรถในวันพระ
ตามโบราณท่านว่าไว้เลยสำหรับวันพระเป็นวันที่แข็ง
ทำให้คนออกรถวันนี้มีแต่เรื่องไม่สบายใจหลังจากการออกรถมา เป็นไปได้ให้หลีกเลี่ยงจะดีที่สุด
ฉะนั้นวันดีที่ควรออกรถจะมีสองวันคือ
วันจันทร์และวันศุกร์ที่จะช่วยหนุนให้เราพบแต่ความโชคดีมีชัยตลอดการเดินทางและการใช้ชีวิตเป็นความเชื่อส่วนบุคคลใช้วิจารณญาณในการอ่านนะค่ะฟังหูไว้หูเจอกันคนละครึ่งทางคิดดีทำดีมักมีแต่สิ่งดีๆเสมอ
No comments:
Post a Comment